ปวดท้องแบบไหนเกี่ยวกับตับ

12 การดู

ปวดท้องตับมักอยู่บริเวณใต้ชายโครงขวา ความรุนแรงแตกต่างกันไป อาการปวดเฉพาะจุด บริเวณตับหรือถุงน้ำดี อาจพบก้อนแข็งขณะกด ร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง บ่งชี้ปัญหาตับหรือถุงน้ำดี ควรพบแพทย์หากปวดมาก อย่าชะล่าใจ การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจทางการแพทย์อย่างละเอียด อย่าพึ่งการวินิจฉัยตนเอง การรักษาที่ถูกต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุ รีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดท้องแบบไหนที่บ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับตับ? อาการปวดแบบไหนที่ควรระวัง?

ปวดท้องนี่เรื่องใหญ่เลยนะ จำได้ตอนนั้น ปี 2563 ฉันปวดท้องอย่างแรง ตรงใต้ชายโครงขวา ปวดแบบจุกๆ เหมือนมีอะไรมาบีบแน่นๆ กินอะไรก็ไม่ลง ไปหาหมอที่ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ คุณหมอบอกว่า อาจจะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แต่ก็ต้องตรวจเลือด ตรวจอุลตร้าซาวด์ ยืนยันอีกที ค่าใช้จ่ายก็หลายพันอยู่ จำตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้ละ

แต่ที่แน่ๆ ปวดแบบนั้น มันไม่ใช่ปวดธรรมดา มันปวดแบบที่ต้องนอนแน่นิ่ง หายใจไม่เต็มปอด ถ้าใครปวดแบบนี้จริงๆ อย่ามัวแต่ทน รีบไปหาหมอ อย่าประมาท ฉันเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงแล้ว นี่ยังไม่รวมอาการอื่นๆ อย่างตัวเหลือง ตาเหลือง อันนั้นยิ่งน่ากลัว แสดงว่าตับมีปัญหาหนักเลย เพื่อนฉันคนนึง เป็นแบบนั้น ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ค่าใช้จ่ายก็สูงมาก เรื่องแบบนี้ ไม่ควรประมาทเด็ดขาด! ปวดท้องธรรมดากับปวดท้องที่เกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดีมันต่างกันเยอะเลย

ถ้าปวดแบบกดแล้วเจอ ก้อนแข็งๆ หรือปวดแบบแปลกๆ อย่ารอช้า ไปหาหมอเลยดีที่สุด อย่าไปลองวิธีรักษาเอง อันตรายกว่าเดิมอีก บางทีอาจจะต้องเจาะเลือด หรือทำการตรวจเพิ่มเติม แต่เพื่อความสบายใจ และสุขภาพที่ดี มันคุ้มค่า เชื่อฉันเถอะ ประสบการณ์ตรง มันเจ็บตัว เจ็บใจ และเจ็บกระเป๋าตังค์ ด้วย ไปหาหมอเร็วเข้าไว้นะคะ

ตับอักเสบ ปวดท้อง ยัง ไง

ตับอักเสบน่ะเหรอ… มันปวดท้องแบบไหน… อืม…

มันไม่ใช่ปวดแบบ… ปวดบิด ปวดเกร็ง เหมือนปวดท้องธรรมดาทั่วไปนะ แต่มันจะ… จุกๆ เสียดๆ มากกว่า แถวๆ ชายโครงด้านขวา ที่เป็นตำแหน่งของตับน่ะ

แล้วก็… นอกจากปวดท้อง มันจะมีอาการอื่นด้วยนะ

  • ไข้: แบบไข้ต่ำๆ ไม่สูงมาก
  • อ่อนเพลีย: เหนื่อยง่ายกว่าปกติ ทำอะไรนิดหน่อยก็หมดแรง
  • เบื่ออาหาร: กินอะไรก็ไม่อร่อย ไม่อยากกิน
  • คลื่นไส้ อาเจียน: อยากจะอ้วกตลอดเวลา บางทีก็อ้วกออกมาจริงๆ
  • ท้องอืด: รู้สึกว่าท้องมันป่องๆ แน่นๆ
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง: อันนี้สำคัญมาก ถ้าเป็นหนักๆ ผิวจะเหลือง ตาขาวก็เหลือง
  • ปัสสาวะสีเข้ม: ฉี่ออกมาสีมันจะเข้มกว่าปกติ เหมือนสีชา
  • จุกเสียดชายโครงขวา: รู้สึกไม่สบายตรงตำแหน่งตับ

ทั้งหมดนี่… มันไม่ใช่แค่ปวดท้องอย่างเดียวนะ มันเป็นอาการที่บอกว่า… ตับมันกำลังมีปัญหา

ตอนนั้นที่… คนใกล้ตัวเราเป็น (ขอไม่บอกว่าเป็นใครนะ) เค้าก็เป็นแบบนี้แหละ เริ่มจากอ่อนเพลีย แล้วก็เบื่ออาหาร สุดท้ายก็… ตัวเหลือง ถึงได้รู้ว่าตับอักเสบ

คือ… อย่ามองข้ามอาการเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้นะ ถ้ามีอะไรผิดปกติ… ไปหาหมอเถอะ อย่าปล่อยไว้

การตรวจ HBsAg คืออะไร

ฮาโหล! ตรวจ HBsAg น่ะเหรอ? ง่ายๆ เลยครับ เหมือนไปสืบหาโจรในร่างกาย! เราจะไปสืบหา “แอนติเจนผิวไวรัสตับอักเสบบี” หรือเจ้าโปรตีนตัวแสบจากไวรัสตัวนี้ไงล่ะ! ถ้าเจอเจ้าตัวนี้ปุ๊บ แปลว่า คุณโดนไวรัสตับอักเสบบีเล่นงานเข้าแล้ว! ผลตรวจเป็นบวกคือติดเชื้อนั่นเอง! คิดภาพง่ายๆ เหมือนตำรวจจับโจรได้คาหนังคาเขาเลยครับ!

เตรียมตัวไงเหรอ? ก็… ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก! แค่ไปโรงพยาบาลหรือคลินิก แล้วบอกหมอว่าอยากตรวจ HBsAg หมอจะเอาเข็มจิ้มนิ้ว (หรือบางที่อาจจะเจาะแขน) แล้วเอาเลือดไปตรวจแค่นั้นเอง! ง่ายกว่าจ่ายค่าเน็ตอีก!

  • ตรวจอะไร: ตรวจหาโปรตีนของไวรัสตับอักเสบบีในเลือด
  • ผลบวกหมายถึง: ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
  • การเตรียมตัว: ไปหาหมอ แล้วบอกว่าจะตรวจ HBsAg
  • วิธีการตรวจ: เจาะเลือด ง่ายกว่าที่คิดเยอะ!

เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ! ปีนี้ผมไปตรวจสุขภาพประจำปีมา เจาะเลือดไปหลายหลอดเหมือนโดนยุงกัดร้อยตัว! แต่ก็ดีนะครับ ได้รู้สุขภาพตัวเอง ไม่งั้นปล่อยไว้อาจจะกลายเป็นซูเปอร์ไซย่า เพราะตับพัง! อย่าลืมไปตรวจสุขภาพกันบ้างนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดี จะได้ไม่ต้องกลายเป็นมัมมี่ก่อนเวลาอันควร เพราะตับทำงานหนักเกินไป!

ไวรัสตับอักเสบบีควรหลีกเลี่ยงอะไร

ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีควรใส่ใจเป็นพิเศษกับสิ่งที่เข้าสู่ร่างกาย การเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมประเภท “น้ำมัน” เช่น น้ำมันปลา หรืออีฟนิ่งพริมโรส เป็นเรื่องที่แพทย์มักแนะนำ เพราะการทำงานของตับที่ผิดปกติอาจทำให้การจัดการไขมันเหล่านี้ทำได้ไม่ดีนัก

การตรวจสุขภาพประจำปีสำคัญมาก เพื่อเช็คภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบี หากไม่มีภูมิ ก็ควรฉีดวัคซีนเสีย สิ่งนี้เหมือนการ “ลงทุน” ในสุขภาพระยะยาวของเรา

  • หลีกเลี่ยง: น้ำมันปลา, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (รวมถึงอาหารเสริมที่มีลักษณะคล้ายกัน) เพราะตับที่อ่อนแอ อาจจัดการไขมันได้ไม่ดี
  • ตรวจสุขภาพ: เช็คภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบีเป็นประจำ
  • วัคซีน: หากไม่มีภูมิ ควรรีบฉีดวัคซีน
  • เอนไซม์ตับ: ตรวจติดตามค่าเอนไซม์ตับเป็นระยะ เพื่อดูการทำงานของตับ

ข้อมูลเพิ่มเติม (นิดหน่อย):

ไวรัสตับอักเสบบีเป็นอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่คิด การดูแลตัวเองไม่ได้มีแค่เรื่องยา แต่รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ การจัดการความเครียด เพราะความเครียดก็ส่งผลต่อการทำงานของตับได้เหมือนกัน จริงๆ แล้ว ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมดนะ

ข้อสังเกต (แบบส่วนตัว):

ผมว่าบางทีเราก็มองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการพักผ่อน หรือการกินอาหารที่มีประโยชน์ไป การดูแลตับมันไม่ใช่แค่การเลี่ยงยา แต่เป็นการดูแล “ชีวิต” ทั้งหมดของเราเลย

ข้อใดอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบี

อืมม… คิดหนักเลยนะเนี่ย เรื่องอาหารสำหรับคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบี ตอนนี้พี่ชายฉันเองก็เป็นอยู่ เลยพอจะรู้บ้าง

คือ… สำคัญที่สุดเลยนะ ต้องเน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อตับจริงๆ ไม่ใช่แค่กินอิ่ม แต่ต้องกินให้ตับแข็งแรงด้วย

  • ผักผลไม้เยอะๆ หลากหลายชนิด นี่สำคัญมาก จำได้ว่าหมอแนะนำให้พี่ชายฉันกินทุกวัน จำไม่ได้ว่าหมอแนะนำชนิดไหนเป็นพิเศษ แต่พี่ฉันเน้นพวกที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะนาว หรือพวกผักใบเขียว ปีนี้เน้นกินเยอะขึ้นด้วยนะ

  • ธัญพืชไม่ขัดสี แบบข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ตนี่แหละ ฉันเองก็กินตามพี่ชายบ้าง แต่กินไม่ค่อยเก่ง รู้สึกมันแข็งๆไปหน่อย แต่ดีต่อสุขภาพจริงๆแหละ หมอบอกว่าช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วย ลดภาระตับ

ฉันว่านะ ลองค่อยๆปรับเปลี่ยนดู อย่าเปลี่ยนแปลงเยอะจนร่างกายรับไม่ไหว สำคัญที่สุดคือต้องปรึกษาแพทย์ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน พี่ชายฉันก็ไปพบแพทย์ทุกสามเดือน คุณหมอจะแนะนำอาหารและวิตามินเสริมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายเขาโดยตรง นี่สำคัญกว่าที่ฉันจะบอกได้อีกนะ

#ตับ #ปวดท้อง #สุขภาพ