ภูมิคุ้มกันบกพร่องมีอาการยังไง

ภูมิตก ตรวจยังไง

เอ้า! ภูมิตกเหรอ? อย่าเพิ่งน้อยใจไป เหมือนแบตมือถือใกล้หมดอายุใช้งาน ต้องเช็กด่วน!

ตรวจยังไง? ง่ายนิดเดียว! เจาะเลือดดำ แค่หลอดเดียว 3-5 ml จุ๊บเดียวเสร็จ! ไม่ต้องอดข้าวอดน้ำ สบายใจเฉิบ! (แต่ถ้าอยากได้ผลตรวจแม่นๆ อาจต้องงดกาแฟเข้มๆ ก่อนตรวจสักชั่วโมง เพราะคาเฟอีนมันเจ้าเล่ห์!)

ควรตรวจเมื่อไหร่? อืม… หลังฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว อย่างน้อย 14-28 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน คิดง่ายๆ เหมือนรอของส่งจากลาซาด้า ไม่เร็วไป ไม่ช้าไป! ถ้าติดโควิดมาก่อนแล้วหาย รอซักเดือนนึงค่อยไปตรวจ ให้ร่างกายมันเซ็ตตัวก่อน เหมือนคนเพิ่งวิ่งมาราธอน ต้องพักหายใจก่อน ไม่งั้นผลตรวจอาจเพี้ยนได้!

• จุดสำคัญ: ตรวจภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีนครบโดสอย่างน้อย 14-28 วัน ไม่เกิน 3 เดือน
• จุดสำคัญ: หากเคยติดโควิดแล้วหาย ตรวจหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน
• วิธีตรวจ: เจาะเลือดดำ 3-5 ml ไม่ต้องอดอาหารหรือน้ำ
• คำเตือนล้อเลียน: งดกาแฟเข้มๆ ก่อนตรวจสักชั่วโมง ผลตรวจจะได้แม่นยำเหมือนโดนจับผิด!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคนิคการตรวจวัดภูมิต้านทานอย่างต่อเนื่อง สามารถตรวจหา antibody หลายชนิดได้แม่นยำขึ้น ราคาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละห้องแล็บและเทคนิคที่ใช้ ควรปรึกษาแพทย์หรือสอบถามจากสถานพยาบาลที่ท่านจะไปตรวจ เพื่อความมั่นใจว่าจะได้รับการตรวจที่เหมาะสมกับความต้องการของท่าน

ภูมิคุ้มกัน ตรวจยังไง

เรื่องตรวจสุขภาพนี่ ปีนี้ไปตรวจที่โรงพยาบาลกรุงเทพ วันที่ 15 กรกฎาคม ตอนแรกกะแค่ตรวจสุขภาพทั่วไป แต่พอหมอถามนู่นถามนี่ เลยตัดสินใจตรวจละเอียดหน่อย เสียเงินไปเยอะอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็คุ้มค่า เพราะได้รู้ปัญหาสุขภาพตัวเองชัดเจนขึ้นเยอะ

• ภูมิคุ้มกัน: ไม่ได้ตรวจแบบเจาะลึกอะไรมาก แค่ตรวจเลือดทั่วไป หมอบอกว่าค่าต่างๆอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

• ฮอร์โมน: ตรวจฮอร์โมนความเครียดด้วย ผลออกมาสูงกว่าปกติพอสมควร หมอบอกว่าต้องปรับ lifestyle ให้ตัวเองพักผ่อนมากขึ้น งดกาแฟหลังหกโมงเย็น และพยายามออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตอนนี้พยายามทำตามอยู่ แต่บางวันก็ยังเครียดอยู่ดี

• วิตามินและแร่ธาตุ: ตรวจละเอียดเลย ปรากฏว่าวิตามินดีต่ำมาก หมอเลยให้วิตามินดีเสริม และแนะนำให้ทานอาหารที่มีวิตามินดีสูงขึ้น อย่างปลาทะเล ไข่ และรับแสงแดดบ้าง ตอนนี้ก็พยายามปรับอยู่ แต่บางทีก็ลืมบ้าง เรื่องอาหารนี่ลำบากสุด

• แบคทีเรียในลำไส้: อันนี้ไม่ได้ตรวจ เพราะตอนนั้นงบหมดแล้ว ไว้คราวหน้าค่อยว่ากันใหม่

• สารสื่อประสาท: อันนี้ก็ไม่ได้ตรวจ จริงๆอยากตรวจนะ แต่หมอบอกว่าถ้าไม่มีอาการอะไร ไม่จำเป็นต้องตรวจ ก็เลยไม่ได้ตรวจไป

หลังจากตรวจเสร็จ หมอให้คำแนะนำ บอกว่าถ้าอยากเสริมภูมิต้านทาน ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด เรื่องง่ายๆ แต่ทำยากจริงๆนะ พูดแล้วก็ปวดหัว แต่ก็จะพยายามต่อไป เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าเดิม อย่างน้อยๆก็ได้วิตามินดีเสริมมาแล้ว ก็ถือว่าดีขึ้นแล้วละกัน

ตรวจภูมิคุ้มกันคืออะไร

ตรวจภูมิคุ้มกัน? ง่ายๆ เลยครับ คือการส่องกระจกดูว่าร่างกายเราสร้าง “ทหาร” (แอนติบอดี้) ต่อสู้โควิดได้มากน้อยแค่ไหน! คิดง่ายๆ เหมือนเช็กยอดเงินในบัญชี เงินเยอะก็สบายใจ เงินน้อยก็ต้องรีบเติม!

สำหรับโควิดนี่ ก็เช็กระดับแอนติบอดี้ในเลือดครับ จะได้รู้ว่า “กองทัพ” ของเรายังแข็งแกร่งอยู่รึเปล่า ถ้าเริ่มน้อยลง ก็ถึงเวลา “เติมทัพ” ด้วยการกระตุ้นวัคซีนซะหน่อย ไม่งั้นโควิดมันอาจจะบุกมาได้ง่ายๆ เหมือนโจรปล้นบ้านที่เห็นว่ารั้วร่อแร่!

• ข้อดีชัดเจน: รู้ระดับภูมิคุ้มกัน วางแผนการกระตุ้นวัคซีนได้อย่างแม่นยำ ป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ดีขึ้น (ข้อมูล ณ ปี 2566)

• เปรียบเทียบเจ๋งๆ: เหมือนเช็กระดับน้ำมันในรถ ถ้าใกล้หมด ก็ต้องรีบเติม ไม่งั้นรถก็ดับกลางทาง!

• ส่วนตัวนิดๆ: ผมเองก็เคยตรวจ ผลออกมาดี สบายใจไปเลย เหมือนได้ประกันชีวิตให้กับร่างกายตัวเอง! แต่ขอไม่ลงรายละเอียดนะ เป็นความลับ!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): การตรวจภูมิคุ้มกันโควิดมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะไวรัสยังคงมีการกลายพันธุ์อยู่ การตรวจช่วยให้เราสามารถประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว! ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งเตรียมตัวได้ทัน!

ภูมิตกมีอาการยังไง

โอ๊ย! ภูมิคุ้มกันตกเนี่ยนะ มันเหมือนโดนผีอำตอนกลางวันแสกๆ! อาการมันจะประมาณว่า…

• ป่วยออดๆ แอดๆ: ไข้หวัดกินหัว กินหาง เป็นว่าเล่น! เหมือนร่างกายเป็นสนามเด็กเล่นให้เชื้อโรคมาวิ่งเล่นสนุกสนาน
• เพลียแบบไม่มีสาเหตุ: นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ! เหมือนแบตมือถือเสื่อม ชาร์จเต็มร้อยก็หมดในพริบตา
• แผลหายช้า: มีแผลนิดหน่อยก็เหมือนชาติกว่าจะหาย! เปรียบเหมือนเต่าคลานขึ้นภูเขาเอเวอเรสต์
• กินอะไรก็ไม่อร่อย: เบื่ออาหารไปหมด! เหมือนคนอกหัก กินอะไรก็ขมไปหมด

สาเหตุนะเหรอ? มันก็ร้อยแปดพันเก้า! แต่ที่แน่ๆ คือ…

• พักผ่อนน้อย: นอนดึก นอนไม่พอ ร่างกายมันก็ประท้วงสิโว้ย!
• เครียด: เครียดมากๆ ก็เหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟในร่างกาย!
• กินอาหารไม่ดี: กินแต่ของไม่มีประโยชน์ ร่างกายมันก็ขาดสารอาหาร เหมือนรถที่เติมน้ำมันปลอม!

ข้อควรรู้เพิ่มเติม (แบบบ้านๆ):

• สมัยก่อนยายฉันบอกว่า ถ้าเป็นหวัดบ่อยๆ ให้กินกระเทียม! ไม่รู้จริงป่าว แต่ยายบอกมาก็เชื่อๆ ไปเหอะ
• ถ้าอยากหายเพลีย ต้องออกกำลังกาย! แต่ไม่ต้องถึงขนาดวิ่งมาราธอนนะ แค่เดินเล่นหน้าปากซอยก็ยังดี
• กินผักผลไม้เยอะๆ! มันเหมือนเติมน้ำมันเครื่องให้ร่างกาย

Disclaimer: อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะจ๊ะ ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่พยาบาล แค่คนบ้านๆ ที่เคยป่วยออดๆ แอดๆ มาก่อน! ปรึกษาหมอดีที่สุดนะจ๊ะ!