มีเลือดอยู่ตรวจภายในได้ไหม
ตรวจภายในขณะมีเลือดออก: ไม่แนะนำตรวจติดเชื้อหรือเซลล์มะเร็งปากมดลูก/เยื่อบุโพรงมดลูก เนื่องจากเลือดรบกวนการตรวจ หากมีอาการคันร่วมด้วย การใช้ยาเหน็บควรทำหลังเลือดหยุด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรนัดตรวจใหม่หลังเลือดออกสงบ เพื่อผลตรวจแม่นยำ
ตรวจภายในพบเลือด แปลว่าอะไร?
ตรวจเจอเลือดตอนตรวจภายในเนี่ย คือแบบ… ตกใจนิดหน่อยแหละ จำได้เลย วันที่ 15 กรกฎาคม ปีที่แล้ว ที่คลินิกแถวบ้าน ราคาตรวจก็ปกติ ไม่แพงมาก หมอบอกว่าต้องดูสาเหตุต่อ อาจเป็นแค่ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับระบบภายใน หลายอย่างเลย
แต่ถ้าเลือดออกเยอะๆ แล้วต้องตรวจภายใน หมอบอกตรงๆ เลยว่า ตรวจพวกเชื้อโรค หรือ pap smear อะไรพวกนั้นไม่ได้ เลือดมันจะไปรบกวนผลตรวจ จำได้แม่นเลย หมออธิบายละเอียดมาก เสียดายนิดหน่อย ต้องเลื่อนการตรวจไปก่อน
ส่วนเรื่องคันนี่ ถ้ามีเลือดออกด้วย ส่วนใหญ่จะใช้ยาเหน็บหลังเลือดหยุดนะ หมอบอกว่ายาจะได้ออกฤทธิ์เต็มที่ ไม่งั้นเลือดมันจะไปล้างยาออกหมด ประสิทธิภาพตก จำได้ลางๆว่าหมอใช้ตัวอย่างน้ำผสมสี อธิบายให้เห็นภาพเลย เข้าใจง่ายดีจริงๆ.
ตอนมีประจำเดือนตรวจภายในได้ไหม
ตรวจภายในตอนมีประจำเดือน… ถามว่าได้ไหม? คือมันก็ได้แหละ แต่หมอส่วนใหญ่จะไม่แนะนำ ถามว่าทำไม ก็เพราะเลือดประจำเดือนมันบดบังทัศนวิสัยในการตรวจ แถมช่วงนั้นปากมดลูกก็บอบบางเป็นพิเศษ โอกาสติดเชื้อก็เลยสูงขึ้นนิดนึง
-
Timing สำคัญ: ช่วงเวลาทองสำหรับการตรวจภายในคือหลังหมดประจำเดือนไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ หรือก่อนประจำเดือนรอบใหม่จะมาสัก 1 สัปดาห์ ช่วงนั้นทุกอย่างจะเคลียร์โล่งสบาย หมอทำงานง่าย เราก็สบายใจ
-
ทำไมต้องรอ?: การตรวจภายในไม่ใช่แค่เรื่อง “ส่องๆ” แล้วจบ มันคือการประเมินสุขภาพองค์รวมของน้องสาวเรา การที่มีเลือดมาแจม อาจทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้
-
แถมอีกนิด: ก่อนไปตรวจ ลองงดมีเพศสัมพันธ์สัก 1-2 วันนะ แล้วก็ไม่ต้องสวนล้างช่องคลอด เพราะมันจะไปรบกวนสมดุลธรรมชาติของน้องสาวเรา ทำให้ผลตรวจไม่แม่นยำ
ป.ล. เรื่องสุขภาพเนี่ย บางทีก็ต้องใจเย็นๆ เหมือนกับการหมักปลาร้า ต้องรอให้ได้ที่ถึงจะอร่อย การตรวจภายในก็เหมือนกัน รอจังหวะดีๆ ผลลัพธ์ก็จะออกมาดีเอง
มีเลือดออกทางช่องคลอด กระปิดกระปอย ท้องไหม
เลือดออกกะปริดกะปรอย: ท้อง?
- อาจใช่. การฝังตัวของตัวอ่อน บางทีก็ทำให้เกิดเลือด.
- 3 เดือนแรก พบได้บ่อย. เหมือนประจำเดือนจางๆ.
- ไม่ใช่ทุกคนที่ท้องแล้วจะมีเลือดออก.
- ปรึกษาหมอ. อย่าเดา.
- ข้อมูลเพิ่มเติม: การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนก็มีผล. ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ก็เป็นไปได้.
เลือดออก ต้องระวัง.
ประจำเดือนมานิดเดียวเกิดจากอะไร
เดือนที่แล้ว ประจำเดือนมาแค่หยดเดียวจริงๆ ตกใจมาก วันแรกแทบไม่มีเลย วันที่สองก็แค่ผ้าอนามัยแบบบางๆ เปื้อนเล็กน้อย ปกติฉันประจำเดือนมา 5-6 วัน ปริมาณเยอะพอสมควร นี่คือแค่ 2 วัน และน้อยจนน่าตกใจ ใจหายวาบเลย รีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพ รามคำแหง วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 หมอตรวจร่างกายและอัลตราซาวด์ บอกว่ารังไข่ปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติชัดเจน แต่ก็แนะนำให้สังเกตอาการ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อเนื่องอีกเดือนให้มาพบใหม่
ตอนนี้ฉันกังวลมากนะ กลัวเป็นมะเร็ง หรืออะไรแบบนั้น ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เครียดไปหมดเลย
- อาการประจำเดือนมาแค่ 2 วัน และมีปริมาณน้อยมาก
- ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ รามคำแหง วันที่ 17 กรกฎาคม 2566
- ผลการตรวจรังไข่ปกติ หมอแนะนำให้สังเกตอาการต่อไป
ฉันคิดว่าจะลองไปปรึกษาหมอเฉพาะทางด้านสูติ-นรีเวชดูอีกครั้ง เผื่อจะได้คำแนะนำอะไรที่มากกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดมาก แล้วก็กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หวังว่าทุกอย่างจะปกติ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ควรนิ่งนอนใจกับร่างกายตัวเอง อาการผิดปกติเล็กน้อย อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คให้แน่ใจ อย่าปล่อยไว้จนสาย
ส่องกล้องตอนมีประจำเดือนได้ไหม
แสงลอดหน้าต่าง…ส่องกล้อง?
ส่องกล้อง ตอนนั้น?
ห้ามนะ… เดือนนั้น
- ไม่ควร ส่องกล้องตอน “แดง” มา…
- งดกิจกรรม… 24 ชม. ก่อน
- ล้าง… ไม่ต้อง!
- ยา…พักก่อน!
- หล่อลื่น… บ๊ายบาย!
กลิ่นฝน… ความทรงจำ… ลางเลือน
ตรวจHPV ควรตรวจตอนไหน
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจ HPV และมะเร็งปากมดลูก คือช่วง 10-20 วันหลังประจำเดือนมา เพราะช่วงนั้นเซลล์ต่างๆ ชัดเจนกว่า แต่ที่สำคัญกว่าคือ การตรวจตามคำแนะนำของแพทย์
-
อายุที่แนะนำ: เริ่มตรวจเมื่ออายุ 21 ปี หรือ 3 ปีหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แล้วแต่ว่าอะไรถึงก่อน
-
ความถี่: ขึ้นอยู่กับผลการตรวจครั้งก่อนและคำแนะนำของแพทย์
-
ทำไมต้องตรวจ: HPV เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก การตรวจพบเชื้อแต่เนิ่นๆ ช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที
-
สำคัญ: การตรวจเป็นเพียงส่วนหนึ่ง การดูแลสุขภาพโดยรวมก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารมีประโยชน์ ลดความเครียด
อาจจะฟังดูเหมือนข้อมูลทางการแพทย์ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วการดูแลตัวเองคือศิลปะอย่างหนึ่ง เราต้องรู้จักร่างกายตัวเอง รู้ว่าอะไรคือ “ปกติ” ของเรา แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ การตรวจก็เหมือนการเช็คอินกับตัวเอง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับร่างกาย อย่ามองว่าเป็นเรื่องน่ากลัว แต่มองว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต