LDLเท่าไรอันตราย

1 การดู

เห็นตัวเลข LDL แล้วใจหายเลยเนอะ! ถ้าเกิน 200 นี่เริ่มน่ากังวลแล้วนะ เกิน 240 นี่คือต้องรีบปรึกษาแพทย์ด่วนๆ เลย มันเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดมาก ถึงจะต่ำกว่า 200 ก็อย่าชะล่าใจ ดูแลสุขภาพ กินอาหารดีๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดีกว่ามานั่งแก้ทีหลังเยอะเลย ชีวิตเรามีค่า ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

LDL สูงปรี๊ด! ทำไมตัวเลขนี้ถึงทำให้ใจหาย และต้องทำยังไงต่อไป?

เห็นตัวเลข LDL แล้วใจหายวาบเลยใช่มั้ยล่ะคะ? เข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลย เพราะเคยเจอมากับตัวเองเหมือนกัน! ตอนที่เห็นผลตรวจเลือดครั้งแรก ตัวเลข LDL พุ่งสูงจนน่าตกใจ ตอนนั้นก็เริ่มหาข้อมูลแบบบ้าคลั่งเลยค่ะว่า “LDL เท่าไรอันตราย?” แล้วต้องทำยังไงถึงจะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ทำไม LDL ถึงสำคัญ? แล้วตัวเลขแบบไหนที่เรียกว่า “อันตราย”?

LDL หรือ Low-Density Lipoprotein เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่มักถูกเรียกว่า “ไขมันเลว” เพราะมันมีหน้าที่นำพาคอเลสเตอรอลไปสะสมตามผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว (Atherosclerosis) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง

  • LDL < 100 mg/dL: ดีงาม! ถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • LDL 100-129 mg/dL: ค่อนข้างดี แต่ก็ควรดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
  • LDL 130-159 mg/dL: ค่อนข้างสูง ควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
  • LDL 160-189 mg/dL: สูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษา
  • LDL ≥ 190 mg/dL: สูงมาก! อันตราย! ต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน

ถ้า LDL เกิน 200 ล่ะ? ต้องทำยังไง?

อย่างที่เพื่อนๆ บอกไว้ข้างต้น ถ้า LDL พุ่งเกิน 200 mg/dL ถือว่าอยู่ในระดับที่น่ากังวลมากค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิน 240 mg/dL นี่คือต้องรีบปรึกษาแพทย์ด่วนๆ เลยนะคะ เพราะความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดจะสูงขึ้นอย่างมาก

แล้วทำไมถึงบอกว่า “ถึงจะต่ำกว่า 200 ก็อย่าชะล่าใจ”?

แม้ว่า LDL จะต่ำกว่า 200 mg/dL ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปลอดภัย 100% นะคะ เพราะปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, การสูบบุหรี่, ประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ, และอายุ ก็มีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเช่นกันค่ะ

ยกตัวอย่างนะคะ คุณป้าข้างบ้านของดิฉัน LDL อยู่ที่ 140 mg/dL ซึ่งถือว่าค่อนข้างดี แต่คุณป้าสูบบุหรี่จัด และมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ คุณหมอเลยยังคงแนะนำให้คุณป้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

แล้วเราจะดูแลตัวเองยังไงได้บ้าง?

  • ปรับเปลี่ยนอาหาร: ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อติดมัน, หนังสัตว์, ผลิตภัณฑ์จากนม (ชีส, เนย), อาหารทอด/ผัด ใช้น้ำมันเยอะๆ หันมาทานอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (เช่น น้ำมันมะกอก, อะโวคาโด) และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (เช่น ปลาที่มีไขมันสูง, ถั่ว) เพิ่มผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน) อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ จะช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL (ไขมันดี) ได้ค่ะ
  • ลดน้ำหนัก: ถ้ามีน้ำหนักเกินเกณฑ์ การลดน้ำหนักจะช่วยลด LDL ได้
  • เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่จะทำให้ LDL สูงขึ้น และ HDL ลดลง
  • ปรึกษาแพทย์: ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว LDL ยังไม่ลดลง อาจจำเป็นต้องใช้ยาลดไขมันตามคำแนะนำของแพทย์

สรุป

LDL เป็นไขมันที่ควรใส่ใจอย่างยิ่ง การตรวจสุขภาพประจำปีและเช็คระดับ LDL เป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่ารอให้ถึงวันที่ LDL พุ่งสูงเกินไปแล้วค่อยมาดูแลตัวเองนะคะ การป้องกันและดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ค่ะ

อย่าลืมว่าชีวิตเรามีค่า ดูแลตัวเองให้ดีนะคะ! 😊