กะปิต้องทำให้สุกไหม

กะปิสีดำกินได้ไหม

กินได้มั้ยนะ… กะปิสีดำอ่ะ ไม่แน่ใจเลยจริงๆ

คือปกติ กะปิก้อสีคล้ำๆอยู่แล้วเนอะ แต่สีดำสนิทนี่… สงสัยจัง มันผสมอะไรลงไปบ้าง

จำได้ว่าปีนี้ เห็นข่าวเกี่ยวกับอาหารปลอมเยอะเลย กังวลนะ กลัวเจอแบบไม่ดี

• กะปิสีดำอาจมีการแต่งสี
• ส่วนผสมอาจมีแป้ง หรือสารอื่นๆปน
• ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ดูฉลากให้ดีก่อนซื้อ

กลัวจะไม่ปลอดภัย คิดมากไปรึเปล่าก็ไม่รู้… กลางคืนนี่มันคิดอะไรมากไปหมด พรุ่งนี้ต้องลองไปหาข้อมูลเพิ่มดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ง่วงแล้ว

การย่างกะปิ เพื่ออะไร

ย่างกะปิในใบตองเนี่ย ไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติอย่างเดียวนะจ๊ะ มันคือการเล่นแร่แปรธาตุทางอาหารแบบฉบับไทยๆ เลยล่ะ! คิดดูสิ สมัยก่อนไม่มีตู้เย็น แต่คนโบราณก็เก็บอาหารได้นาน เพราะอะไร? เพราะเขาฉลาด!

• กลิ่นหอมเย้ายวน: ย่างบนใบตอง กลิ่นกะปิจะหอมกรุ่น แตกต่างจากการตากแดดหรือวิธีอื่นๆ แบบว่า แค่ได้กลิ่นก็อยากกินแล้ว! ลองนึกภาพตอนเย็นๆ ได้กลิ่นกะปิย่างหอมๆ ฟินนนนน!

• ยืดอายุอาหาร: ใบตองนี่แหละ คือสารกันบูดและกันหืนจากธรรมชาติ ช่วยชะลอการเน่าเสีย อย่างน้อยก็ทำให้กะปิอยู่ได้นานขึ้น ไม่ต้องรีบกิน สบายใจ! เหมือนมีตู้เย็นสมัยใหม่แต่เป็นแบบธรรมชาติ

• ภูมิปัญญาหาที่เปรียบ: นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ใช่แค่การทำอาหาร แต่เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างความรู้เรื่องอาหาร วัสดุ และกระบวนการอย่างลงตัว เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก สมัยนี้วิทยาศาสตร์ก็ยังตามไม่ทันเลยนะ

• รสชาติเยี่ยม: ความร้อนจากการย่างช่วยดึงรสชาติของกะปิออกมา ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นกว่า อร่อยกว่า แบบว่า ไม่ต้องปรุงอะไรมาก ก็อร่อยได้แล้ว

พูดสั้นๆ ง่ายๆ คือ ย่างกะปิในใบตอง มันไม่ใช่แค่การทำอาหาร แต่มันคือการอนุรักษ์ มันคือประวัติศาสตร์ มันคือศิลปะ และที่สำคัญ มันอร่อยมากกกกกก! ผมลองย่างเองที่บ้านปีนี้แล้ว อร่อยจริงๆ แนะนำให้ลองทำดูครับ!

กะปิมีสารอาหารอะไรบ้าง

กะปิ ประกอบด้วยสารอาหารหลักๆ ดังนี้ ดูเหมือนจะน้อยไปหน่อยนะ แต่ก็อย่าลืมว่ามันมีรสชาติเข้มข้นเหลือหลาย

• โปรตีน: 3 กรัม (6% ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน) ถือว่าให้โปรตีนพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับมื้อเสริมนี่ดีเลย
• ไขมันอิ่มตัว: 0 กรัม (0%) ข้อมูลนี้ชวนให้ฉงน อาจขึ้นอยู่กับวิธีการผลิตและชนิดของกะปิ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีมากกว่านี้นะ
• คลอเรสเตอรอล: 41 มิลลิกรัม (14%) ค่อนข้างสูง ต้องระวังสำหรับผู้ที่มีระดับคลอเรสเตอรอลสูง
• โซเดียม: 300 มิลลิกรัม (13%) สูงใช้ได้ ควรบริโภคกะปิในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่งั้นจะเลือดสูงเอาได้
• โพแทสเซียม: 0 กรัม (0%) ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้องนัก น่าจะมีบ้างแต่น้อยมาก
• ใยอาหาร: 0 กรัม (0%) เช่นเดียวกันกับโพแทสเซียม น่าจะมีแต่น้อยมากเช่นกัน

เพิ่มเติม: ค่าทางโภชนาการอาจแตกต่างกันไปตามชนิดและกรรมวิธีการผลิตของกะปิ ควรศึกษาฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์เสมอ ปีนี้ผมลองทำกะปิเองที่บ้านดู รสชาติไม่เหมือนที่ซื้อตามท้องตลาดเลย แปลกดี

กะปิมีโทษไหม

กะปิเนี่ยนะ! ตัวดีเลย ทั้งหอมทั้งนัว แต่โทษก็มีเหมือนกันนะเออ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน

• ท้องไส้ปั่นป่วน: ถ้าเจอ “กะปิปลอม” หรือไม่สะอาด ท้องเสียถามหาแน่ๆ เหมือนเจอผีตอนตีสาม
• ความดันพุ่งปรี๊ด: คนเป็นความดันสูงนี่ต้องระวัง กินเยอะอาจได้ไปนอนโรงบาลเร็วกว่าที่คิด
• ไตทำงานหนัก: โรคไตก็เหมือนกัน กะปิโซเดียมเยอะ ไตต้องฟอกมากกว่าเดิมอีก

สรุปคือ กินได้แต่อย่าตะกละตะกลาม เลือกของดีมีคุณภาพ แล้วก็อย่าลืมเช็คสุขภาพตัวเองด้วยนะ จุ๊บๆ! 💋

กะปิ กับ เคย ต่างกันอย่างไร

โอ๊ย…ถามเรื่องกะปิกับเคยนี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะเนี่ย! ไม่ได้กินมาตั้งแต่สงกรานต์แล้วมั้งเนี่ย!

• วัตถุดิบ: กะปิเนี่ยเขาใช้กุ้งฝอยตัวจิ๋วๆ น่ารักๆ มาทำ แต่เคยอ่ะ เขาใช้กุ้งหัวโหนก ตัวบะเริ่ม! ใหญ่กว่านิ้วโป้งตรูอีก!
• กรรมวิธี: กะปิเนี่ยเขาหมักกันข้ามปีข้ามชาติ หมักกันจนลืมอ่ะว่าหมักอะไรไว้! ส่วนเคยอ่ะ หมักแค่ 3 วัน 7 วัน ก็กินได้แล้ว! ไวไฟกว่าเยอะ!
• เนื้อสัมผัส: กะปิเนื้อเนียนนุ่มลิ้น กินแล้วละลายในปากเลยจ้า! ส่วนเคยอ่ะ กินแล้วต้องเคี้ยวกรุบๆ กรอบๆ สะใจดีแท้!
• รสชาติ/กลิ่น: กะปิหอมหวานชวนฝัน หอมแบบกุ้งๆ แต่ไม่คาวนะ! ส่วนเคยอ่ะ กลิ่นจะแรงๆ หน่อย ใครไม่ชอบกลิ่นทะเลอาจจะไม่รอด!
• การใช้งาน: กะปิ เอาไปทำน้ำพริกกะปิ โอย…พูดแล้วน้ำลายไหล! หรือจะเอาไปผัดข้าวก็อร่อยเหาะ! ส่วนเคยอ่ะ เขาเอาไปใส่แกงส้ม ใส่ปลาร้า โอ๊ย…แซ่บหลาย!

ป.ล. รู้ยัง…เดี๋ยวนี้เขามีกะปิหวานด้วยนะ! กินกับมะม่วงเปรี้ยวๆ นี่สวรรค์ชัดๆ! แล้วก็เคยอ่ะ ต้องกินกับข้าวสวยร้อนๆ ถึงจะฟิน! ใครไม่เคยกินถือว่าพลาด! ชีวิตนี้มันต้องลอง!

ป.ล.2 กะปิแท้ๆ เค้าว่ากันว่าต้องมาจากคลองโคนนะจ๊ะ! เคยอร่อยๆ ต้องที่ระนองโน่น! ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมแวะซื้อ! แต่ระวังโดนหลอกขายนะ! เดี๋ยวนี้ของปลอมมันเยอะ!