ผู้เรียนมีวิธีการดูแลสุขภาพอย่างไร
ดูแลสุขภาพกายใจง่ายๆ 10 ข้อ:
- อาหารดี: เน้นโภชนาการครบถ้วน
- พักผ่อน: นอนหลับให้เพียงพอ
- ออกกำลังกาย: ทำเป็นประจำ
- ดื่มน้ำ: วันละ 8-10 แก้ว
- คิดบวก: ปรับทัศนคติ
- สมาธิ: ฝึกจิตใจให้สงบ
- ลดเครียด: ปล่อยวาง
- ตรวจสุขภาพ: เช็คเป็นประจำ
- กิจกรรม: หากิจกรรมที่ชอบทำ
- ความสัมพันธ์: สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
นักเรียนดูแลสุขภาพอย่างไร? เทคนิคดูแลสุขภาพสำหรับนักเรียน
เรื่องดูแลสุขภาพเนี่ย ตอนเรียนปีสาม หนักมากกกก สอบเยอะ งานทะลัก นอนดึกแทบทุกวัน จำได้ว่าช่วงนั้น ฉันกินแต่กาแฟกับมาม่า ผิวแห้งกร้าน หน้าโทรมสุดๆ หนักสุดคือ ป่วยบ่อยมาก เป็นหวัดไม่หายซักที ไข้ขึ้นๆ ลงๆ เสียค่ารักษาไปหลายพันเลยล่ะ เดือนตุลาคม ปี 64 นี่แหละ หมดไปเกือบ 5,000 บาทเลยนะ กับค่าคลินิกและยา
พอเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยลองปรับเปลี่ยน พยายามกินผักผลไม้เพิ่ม แต่ก็ยังไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย เลยเริ่มจากเดินเร็วๆ วันละ 20 นาทีหลังเลิกเรียน ก็ช่วยได้เยอะนะ รู้สึกสดชื่นขึ้น อารมณ์ดีขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น ผิวก็ดีขึ้นด้วย
ส่วนเรื่องความเครียด ฉันใช้วิธีฟังเพลงคลายเครียด หรือบางทีก็วาดรูป อะไรที่รู้สึกว่าผ่อนคลาย ช่วยได้จริงๆ คือไม่ได้ทำสมาธิอะไรหรอกนะ มันไม่ใช่แนวเรา แต่การได้ทำอะไรที่ชอบ มันช่วยได้เยอะ จริงๆแล้วการดูแลสุขภาพเนี่ย มันต้องค่อยๆ ปรับ ไม่ได้ทำทีเดียวแล้วจะดีขึ้นทันที ต้องใจเย็นๆ และพยายามทำอย่างสม่ำเสมอ สำคัญที่สุดคือ ต้องหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง อย่าฝืนทำอะไรที่ไม่ชอบ จะยิ่งเครียดเปล่าๆ
การส่งเสริมสุขภาพวัยเรียน มีอะไรบ้าง
โอเค เข้าใจละ ลองดูนะ…
เรื่องส่งเสริมสุขภาพวัยเรียนเหรอ นึกถึงตอนลูกชายคนเล็กเลย ตอนนั้นอยู่ ม.2 กำลังซน ชอบกินแต่ขนม ไม่กินข้าว จนน้ำหนักขึ้นพรวดพราด พาไปหาหมอที่ รพ.จุฬาฯ หมอแนะนำให้เน้นอาหารมีประโยชน์ ลดของหวาน แล้วก็ต้องออกกำลังกายด้วย หมอบอกว่าเด็กวัยนี้สำคัญมาก ต้องปลูกฝังพฤติกรรมที่ดี
- โภชนาการ: หมอบอกเลยว่าต้องเน้นผัก ผลไม้ โปรตีน เลี่ยงพวกแป้งขัดสี ขนมหวาน น้ำอัดลม (อันนี้ยากสุด ลูกชายติดมาก!)
- ออกกำลังกาย: ชวนกันไปวิ่งที่สวนหลวง ร.9 อาทิตย์ละ 3 วัน หมอบอกว่าแค่เดินเร็วๆ ก็ยังดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ
- นอนหลับ: ต้องนอนให้พอ 8-10 ชั่วโมง หมอบอกว่าสำคัญต่อการเจริญเติบโต แล้วก็ช่วยเรื่องอารมณ์ด้วย (ลูกชายติดเกมส์ กว่าจะยอมนอนยากมาก)
- สุขภาพจิต: หมอบอกว่าวัยรุ่นเครียดง่าย ต้องคุยกันบ่อยๆ รับฟังปัญหา แล้วก็หาทางออกด้วยกัน (อันนี้สำคัญสุดๆ)
ตอนนั้น รร.ลูกชายก็มีโครงการส่งเสริมสุขภาพด้วยนะ มีกิจกรรมให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา เรื่องยาเสพติด แล้วก็มีคลินิกให้คำปรึกษาด้วย รู้สึกดีที่ รร.ให้ความสำคัญเรื่องนี้
เรื่องสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพก็สำคัญ รร.ลูกชายมีสนามบาส สนามฟุตบอลให้เล่น มีห้องพยาบาลที่สะอาด แล้วก็มีครูที่ปรึกษาคอยดูแล
แล้วก็เรื่องความรู้ หมอที่ รพ.จุฬาฯ แนะนำว่าต้องให้ความรู้เรื่องโรคต่างๆ เรื่องการป้องกันตัวจากภัยสังคม เรื่องเพศศึกษา แล้วก็เรื่องการจัดการอารมณ์ตัวเอง
- การคัดกรองสุขภาพ: รร.ก็จะมีตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจสายตา ตรวจฟัน (อันนี้ก็สำคัญ จะได้รู้แต่เนิ่นๆ)
- บริการสุขภาพ: รร.มีห้องพยาบาล มีครูที่ดูแล แล้วก็มีประสานงานกับ รพ. ถ้ามีอะไรฉุกเฉิน
ตอนนี้ลูกชายก็ดีขึ้นเยอะ น้ำหนักลดลง สุขภาพแข็งแรงขึ้น แล้วก็รู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น รู้สึกดีที่ตอนนั้นเราใส่ใจเรื่องสุขภาพเค้าอย่างจริงจัง
กิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพ มีอะไรบ้าง
อืมมม… กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่ทำบ่อยๆ ปีนี้เหรอ? ก็มีหลายอย่างนะ แบบว่าช่วงต้นปี มกราคม ฉันเพิ่งเริ่มวิ่งจริงจัง ที่สวนลุมฯ เช้าวันเสาร์ อากาศดีมาก แต่คนเยอะไปหน่อย วิ่งได้แค่ 3 กิโลเอง เหนื่อยมาก แทบคลานกลับบ้าน ขาแข็งไปหมด เดือนเมษายน ไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำของคอนโด อื้อหือ น้ำเย็นฉ่ำ ว่ายได้สักชั่วโมง รู้สึกผ่อนคลายสุดๆ แต่หลังจากนั้นไม่ค่อยได้ไปต่อ เพราะงานยุ่ง ช่วงนี้งานเยอะมาก แทบไม่มีเวลาว่างเลย แต่พยายามหาเวลาว่างไปเดินเล่น สัปดาห์ที่แล้วไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้านตอนเย็นๆ อากาศดีมาก เดินชิลๆ ประมาณ 45 นาที รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย
- เดินเร็ว สวนลุมฯ (มกราคม 2566)
- ว่ายน้ำ คอนโด (เมษายน 2566)
- เดินเล่น สวนสาธารณะใกล้บ้าน (สัปดาห์ที่แล้ว)
เรื่องกายบริหาร โยคะ รำมวยจีนนี่ เคยลองบ้างนะ แต่ไม่ค่อยต่อเนื่อง อาจจะกลับมาลองใหม่ก็ได้ ช่วงนี้เครียดๆ อยากหาอะไรทำผ่อนคลาย ฝึกโยคะดูน่าจะดี เห็นเพื่อนๆ บอกว่าดี สวนสุขภาพใกล้ๆ บ้านก็มี แต่ยังไม่เคยไปลองเลย ว่างๆ ต้องไปลองดูบ้าง
ปีนี้ เน้นออกกำลังกายแบบเบาๆ สบายๆ มากกว่า ไม่เน้นหนัก เพราะงานเยอะ เหนื่อยง่าย หาอะไรที่ทำได้สบายๆ ผ่อนคลายมากกว่า
Health Promotion มีอะไรบ้าง
Health Promotion ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย มุ่งส่งเสริมสุขภาพที่ดีและป้องกันโรค ไม่ใช่แค่การรักษาเมื่อเจ็บป่วยแล้ว ปีนี้เน้นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดี และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น การรณรงค์ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง การส่งเสริมการออกกำลังกาย และการสร้างพื้นที่สีเขียวในชุมชน
Health Promotion process จริงๆ แล้วซับซ้อนกว่าแค่ 3 ขั้นตอน แต่ถ้าจะแบ่งหลักๆ ก็คือ:
- Internal process: การทำงานภายในองค์กร การวางแผน การจัดการทรัพยากร การประเมินผล ตรงนี้สำคัญมาก เพราะเป็นฐานรากของทุกอย่าง ไม่มีการจัดการที่ดี งานก็ล้มเหลวได้ง่ายๆ
- System governance: การกำกับดูแล กลไกการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ การสร้างมาตรฐาน การตรวจสอบ ส่วนนี้คล้ายกับการสร้างระบบนิเวศน์ที่ดี ให้ทุกอย่างทำงานประสานกัน
- Intersectoral Collaboration: ความร่วมมือข้ามภาคส่วน คือหัวใจสำคัญ เพราะสุขภาพไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขอย่างเดียว ต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน เศรษฐกิจ การศึกษา สังคม ฯลฯ ถึงจะประสบความสำเร็จ ผมเคยเห็นโครงการที่ล้มเหลวเพราะขาดความร่วมมือตรงนี้มาแล้ว
Social Mobilization เป็นส่วนสำคัญของ Intersectoral Collaboration คือการกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม สร้างการรับรู้ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ต้องสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ใช่แค่สั่งการอย่างเดียว อย่างที่ผมเคยศึกษา การสื่อสารแบบเข้าใจง่ายสำคัญมาก ไม่งั้นประชาชนก็ไม่เข้าใจ
การทำงานจริงๆ มันไม่ใช่แค่ทำตามขั้นตอน แต่ต้องมีความยืดหยุ่น ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ต้องมองภาพรวม และที่สำคัญที่สุด ต้องมี passion ถึงจะทำได้ดี นี่คือประสบการณ์ตรงที่ผมเรียนรู้มาจากการทำงานภาคสนาม และการวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion) หมายถึงอะไร ยกตัวอย่างประกอบ
ส่งเสริมสุขภาพเหรอ… มันเหมือนกับการสร้าง ชีวิต ที่ดีขึ้นทีละนิดน่ะ
-
ส่งเสริมสุขภาพ คือการทำให้คนมีสุขภาพดีขึ้น ไม่ใช่แค่ไม่ป่วย แต่คือการมี ความสุข ด้วย
-
ตัวอย่าง: การรณรงค์ให้คนกินผักเยอะๆ ไม่ใช่แค่บอกว่าดีต่อสุขภาพ แต่ต้องทำให้ผักมันน่ากิน เข้าถึงง่าย ราคาไม่แพงด้วย
กลยุทธ์สร้างเสริมสุขภาพ (Ottawa Charter)… มันลึกซึ้งกว่าที่คิดนะ
-
นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ: รัฐต้องจริงจัง ออกกฎหมายที่ช่วยให้คนมีสุขภาพดีได้ง่ายขึ้น เช่น เก็บภาษีน้ำหวานแพงๆ ให้คนกินน้อยลง
-
สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ: สร้างพื้นที่ให้คนออกกำลังกายได้ฟรี ปลอดภัย มีสวนสาธารณะเยอะๆ ไม่ใช่มีแต่ห้าง
-
ส่งเสริมกิจกรรมชุมชน: ชวนคนในชุมชนมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ปลูกผัก ปั่นจักรยาน ช่วยกันดูแลผู้สูงอายุ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง คนก็มีความสุข สุขภาพจิตก็ดีตาม
มันไม่ใช่แค่เรื่องของร่างกาย แต่มันคือ ทุกอย่าง ในชีวิต… ที่เชื่อมโยงกันหมด
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต