แขนบวมรักษายังไง

19 การดู
การรักษาแขนบวมขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเกิดจากการบาดเจ็บ อาจต้องประคบเย็น ยกแขนสูง และรับประทานยาแก้ปวด ถ้าเกิดจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ต้องรับการรักษาโดยแพทย์อย่างเร่งด่วน หากมีอาการบวมร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดรุนแรง หรือหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง การดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายเบาๆ อาจช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ไม่ใช่การรักษาหลัก
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แขนบวม: สาเหตุ การดูแลเบื้องต้น และสัญญาณที่ต้องรีบพบแพทย์

อาการแขนบวมเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลและความไม่สบายตัวให้กับหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมเพียงเล็กน้อย หรือบวมจนรู้สึกตึงและเจ็บ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ และวิธีการดูแลเบื้องต้น จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับอาการได้อย่างเหมาะสม และรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

สาเหตุของอาการแขนบวมนั้นมีความหลากหลาย ตั้งแต่การบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงภาวะทางการแพทย์ที่ร้ายแรงกว่านั้น การบาดเจ็บ เช่น การฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก หรือการฉีกขาดของกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย หรืออุบัติเหตุ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ในกรณีเช่นนี้ การบวมมักมาพร้อมกับอาการปวด กดเจ็บ และอาจมีรอยฟกช้ำร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม อาการแขนบวมไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บเพียงอย่างเดียว ภาวะทางการแพทย์อื่นๆ ก็สามารถทำให้แขนบวมได้เช่นกัน เช่น:

  • ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน: ลิ่มเลือดที่ก่อตัวในหลอดเลือดดำของแขน (Deep Vein Thrombosis หรือ DVT) สามารถขัดขวางการไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดอาการบวม ปวด และผิวหนังบริเวณนั้นอาจเปลี่ยนสีเป็นสีแดงหรือม่วงคล้ำ ภาวะนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตและต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์อย่างเร่งด่วน
  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อที่ผิวหนัง เนื้อเยื่อ หรือกระดูกในแขน สามารถทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และปวด หากมีอาการติดเชื้อร่วมกับอาการไข้ ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
  • ระบบน้ำเหลืองผิดปกติ: ระบบน้ำเหลืองมีหน้าที่ระบายของเหลวส่วนเกินออกจากเนื้อเยื่อ หากระบบนี้ทำงานผิดปกติ ของเหลวอาจสะสมในแขน ทำให้เกิดอาการบวมเรื้อรัง
  • ภาวะไตหรือหัวใจล้มเหลว: ภาวะเหล่านี้สามารถทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้แขนและขาบวม

การดูแลเบื้องต้นเมื่อมีอาการแขนบวม:

หากอาการแขนบวมเกิดจากการบาดเจ็บเล็กน้อย สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดังนี้:

  • ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่บวมด้วยผ้าเย็นหรือน้ำแข็งห่อผ้า ประมาณ 15-20 นาที หลายๆ ครั้งต่อวัน เพื่อลดอาการบวมและปวด
  • ยกแขนสูง: ยกแขนให้สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อช่วยให้ของเหลวไหลกลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตได้ดีขึ้น
  • พักผ่อน: หลีกเลี่ยงการใช้แขนข้างที่บวม และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ยาแก้ปวด: หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน

สัญญาณที่ต้องรีบไปพบแพทย์:

ถึงแม้ว่าการดูแลเบื้องต้นอาจช่วยบรรเทาอาการแขนบวมได้ แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที:

  • อาการบวมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
  • มีอาการปวดรุนแรง
  • ผิวหนังบริเวณที่บวมเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ม่วงคล้ำ หรือซีด
  • มีอาการไข้ หนาวสั่น หรือมีหนอง
  • มีอาการหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือเวียนศีรษะ
  • มีประวัติทางการแพทย์ เช่น โรคหัวใจ โรคไต หรือเคยมีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

ข้อควรระวัง:

การดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายเบาๆ อาจช่วยบรรเทาอาการบวมได้บ้าง แต่ไม่ใช่การรักษาหลัก และไม่สามารถรักษาอาการบวมที่เกิดจากภาวะทางการแพทย์ที่ร้ายแรงกว่านั้นได้ ดังนั้น หากมีอาการแขนบวม ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม

การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่ทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้ง