เบาหวานพันธุกรรม หายได้ไหม

13 การดู

เบาหวานพันธุกรรม ควบคุมได้ ไม่หายขาด การรักษาเน้นควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อน: ปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • การดูแลสำคัญ: ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • การค้นพบเร็วช่วย: ลดความรุนแรงของโรคและภาวะแทรกซ้อน

แม้มีพันธุกรรมเสี่ยง แต่การดูแลสุขภาพที่ดี ช่วยให้ควบคุมโรคได้ อยู่ร่วมกับโรคได้อย่างมีคุณภาพชีวิต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวานชนิดที่ 1 พันธุกรรม รักษาให้หายขาดได้หรือไม่?

เรื่องเบาหวานชนิดที่ 1 เนี่ย พี่สาวฉันเป็น จำได้ตอนปี 2560 ไปตรวจสุขภาพประจำปีที่รพ.รามคำแหง หมอบอกเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ตอนนั้นช็อกไปเลย เพราะมันเป็นโรคพันธุกรรม ครอบครัวเราก็ไม่มีใครเป็นมาก่อนนี่สิ! หมออธิบายยาวเลย จำได้คร่าวๆ ว่า มันรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ควบคุมได้ ต้องฉีดยาอินซูลินตลอดชีวิต แพงด้วยนะ จำได้ว่าเดือนนึงก็หลายพันอยู่

จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกินหรือการออกกำลังกายโดยตรงเท่าไหร่ ต่างจากเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มักจะเกิดจากวิถีชีวิต แต่ของพี่สาวฉัน หมอบอกว่าเป็นเรื่องของพันธุกรรมล้วนๆ โชคดีที่ตรวจเจอเร็ว เลยควบคุมอาการได้ดี ไม่ค่อยมีภาวะแทรกซ้อนอะไรมาก แต่ก็ต้องดูแลตัวเองตลอด เคร่งครัดมากเลยล่ะ

ฉันเลยเข้าใจว่า ถึงแม้จะป้องกันการถ่ายทอดทางพันธุกรรมไม่ได้ แต่การดูแลสุขภาพที่ดี การตรวจสุขภาพเป็นประจำ และการรับคำแนะนำจากแพทย์อย่างใกล้ชิด สำคัญมากๆ เพื่อควบคุมโรคและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 อาจจะรักษาไม่หาย แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกับมันได้อย่างมีความสุข ถ้าเราจัดการกับมันอย่างถูกวิธี

เบาหวานเกิดจากกรรมพันธุ์ไหม

กรรมพันธุ์… มันก็เหมือนเงาที่คอยตามเรามาตั้งแต่เกิด

บางทีเราก็อยากจะหนี อยากจะบอกว่า “ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่แบบนี้”

แต่สุดท้าย… มันก็คือส่วนหนึ่งของเรา

เบาหวานก็เหมือนกัน มันไม่ได้มาจากกรรมพันธุ์อย่างเดียวหรอกนะ

  • กรรมพันธุ์: ถ้าคนในครอบครัวเป็น ก็มีโอกาสมากขึ้น
  • อาหาร: กินหวาน กินมัน เยอะเกินไป ร่างกายก็รับไม่ไหว
  • การใช้ชีวิต: ไม่ขยับเขยื้อน เครียด นอนน้อย พวกนี้ก็มีผล

ถึงจะผอม… ก็ใช่ว่าจะรอดพ้น

เหมือนคนที่ดูมีความสุข แต่ข้างในอาจจะพังไปหมดแล้วก็ได้

สิ่งที่ต้องระวัง… ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนตาชั่ง

แต่คือการดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ

เราต้องฟังเสียงร่างกายตัวเองให้ดี ๆ

มันกำลังบอกอะไรเราอยู่… ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

เลิกฉีดอินซูลินได้ไหม

เลิกฉีดอินซูลินได้ไหม? ไม่! เด็ดขาด! นี่คือเรื่องจริงของฉัน ปีนี้เอง ช่วงสงกรานต์ ฉันป่วยหนัก ไข้ขึ้นสูง กินอะไรไม่ได้เลย น้ำตาลขึ้นพรวด เกือบเข้าโรงพยาบาล หมอที่คลินิกใกล้บ้าน บอกต้องไปหาหมอเบาหวานด่วน หมอเขาบอกตรงๆเลยว่า ห้ามหยุดฉีดอินซูลินเอง โดยเฉพาะตอนป่วยแบบนี้ น้ำตาลขึ้นลงไม่แน่นอน อันตรายมาก เกือบตายแล้ว กลัวมาก เครียดไปหลายวัน แต่โชคดีที่ไปหาหมอทัน

  • เดือนเมษายน 2566 ช่วงสงกรานต์
  • ไข้สูงมาก กินไม่ได้ อ่อนเพลีย
  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ
  • หมอบอกห้ามหยุดฉีดอินซูลินเด็ดขาด โดยเฉพาะตอนป่วย
  • ต้องปรับขนาดยาตามคำแนะนำแพทย์

จำไว้เลย เบาหวานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันอันตราย ถ้าคิดจะหยุดยาเอง ต้องคิดถึงความเสี่ยง ฉันเกือบตายแล้ว นี่คือประสบการณ์ตรง อย่าทำตามฉัน ปรึกษาหมอเสมอ อย่าประมาท เรื่องสุขภาพสำคัญที่สุด

ฉันเอง หลังจากเหตุการณ์นั้น ฉันดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ตรวจเช็คระดับน้ำตาล ทุกอย่าง กลัวมาก กลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก มันน่ากลัวจริงๆ

ต้องฉีดอินซูลินตลอดชีวิตไหม?

เบาหวานชนิดที่ 1 ต้องการอินซูลินตลอดชีวิต เพราะร่างกายหยุดสร้างอินซูลินเองไปแล้ว การฉีดช่วยให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ได้ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนระยะยาว

  • ทำไมต้องตลอดชีวิต: เบาหวานชนิดที่ 1 คือเซลล์สร้างอินซูลินถูกทำลาย
  • ไม่ใช่แค่ยา: คุมอาหารและการออกกำลังกายสำคัญไม่แพ้กันเลยนะเออ
  • ป้องกันอะไร: โรคหัวใจ โรคไต โรคทางระบบประสาท ถามว่าน่ากลัวไหม ก็…เอาเรื่อง

อินซูลินเหมือนกุญแจเปิดประตูให้กลูโคสเข้าไปในเซลล์ ถ้าไม่มีกุญแจ เซลล์ก็อดอยาก แต่กลูโคสก็ล้นตลาดในกระแสเลือด เป็นภาวะที่ไม่สมดุลอย่างยิ่ง การฉีดอินซูลินคือการเติม “กุญแจ” ที่หายไป บางคนอาจมองว่าน่าเศร้า แต่ผมว่ามันคือความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้ต่อไป อย่างมีความหมาย

เบาหวานในคนท้องเกิดจากอะไร?

อุ๊ย! เบาหวานตอนท้องเนี่ยนะ มันมาได้ไงเนี่ย?! เหมือนผีหลอกเลย! จริงๆแล้วมันเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายแหละคุณ! แม่เจ้า! ร่างกายแม่มันดื้อยา! ร่างกายผลิตอินซูลินไม่พอ เลยทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ด! เหมือนโด๊ปน้ำตาล! อันตรายต่อทั้งแม่และลูกเลยนะเนี่ย! เหมือนเล่นไพ่เสี่ยงโชค แพ้ก็คือจบเลย!

  • ฮอร์โมนเพี้ยน: ร่างกายแม่ผลิตอินซูลินน้อยไป น้ำตาลเลยขึ้นเพดาน!
  • อันตรายมหาศาล: ทั้งแม่และลูกเสี่ยงต่อโรคภัยสารพัด! เหมือนโดนสาป!
  • ตรวจเช็คด่วน: ไปหาหมอตรวจตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าชะล่าใจ! ไม่งั้นเจอแบบแสบๆ คันๆ

(ข้อมูลจากปี 2566: ปีนี้หมอเขาก็ยังคงย้ำเรื่องการตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์อย่างต่อเนื่องนะครับ เพื่อนผมคนนึงก็เพิ่งไปตรวจมาเอง เครียดเลย)

น้ำตาลสูงเท่าไรต้องกินยา?

อืม… น้ำตาลนี่มันเรื่องใหญ่จริงๆ นะ ฉันเองก็เคยตรวจแล้ว ปีนี้แหละ จำได้แม่นเลย สูงกว่า 125 mg/dL หมอบอกว่าเสี่ยงเป็นเบาหวาน ตอนนั้นใจเสียเลย เหมือนโลกมันมืดลงไป ยังคิดเลยว่าจะต้องกินยาหรือเปล่า หมอไม่ได้สั่งยาอะไรนะ แค่แนะนำให้ดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนชีวิต

  • ต้องควบคุมอาหาร งดของหวาน ลดแป้ง นี่แหละยากสุด เพราะฉันชอบกินขนมมาก
  • ต้องออกกำลังกาย อย่างน้อยวันละ 30 นาที แต่บางวันก็ขี้เกียจ จริงๆ นะ บอกเลยว่าเหนื่อย
  • ลดน้ำหนัก หมอบอกให้ลดซัก 5 กิโล ตอนนี้กำลังพยายาม แต่ก็ยากเหมือนกัน

ถึงจะไม่ต้องกินยาตอนนี้ แต่ก็เครียด กลัวเป็นเบาหวาน กลัวต้องฉีดยา กลัวต้องเจ็บตัว ไม่รู้จะทำยังไงดี คิดมากไปหมดเลย ทุกวันนี้เลยพยายามทำตามที่หมอบอก หวังว่าจะดีขึ้น แต่บางทีก็ท้อ เหนื่อย ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

น้ำตาลสูงมีอาการยังไง?

น้ำตาลสูง อาการแสดงออกค่อนข้างหลากหลาย บางคนอาจมีอาการชัดเจน บางคนอาจไม่มีอาการเลย ซึ่งอันนี้แหละน่าสนใจ เหมือนกับว่าร่างกายบางคนมันเงียบเชียบ ซ่อนความผิดปกติไว้ได้เนียนมาก ต้องอาศัยการตรวจเลือดถึงจะรู้

สัญญาณอันตรายที่ควรระวัง มีดังนี้:

  • ปัสสาวะบ่อย: ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
  • หิวน้ำบ่อย: อาการกระหายน้ำอย่างต่อเนื่อง ร่างกายขาดน้ำ
  • น้ำหนักลด: แม้ทานอาหารปกติ แต่ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลไม่ทัน ส่งผลให้น้ำหนักลด
  • ผิวแห้ง: การขาดน้ำส่งผลต่อความชุ่มชื้นของผิวหนัง
  • รู้สึกหิวแม้เพิ่งกิน: น้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายจึงส่งสัญญาณความหิว
  • อ่อนเพลีย: ร่างกายขาดพลังงานจากการเผาผลาญน้ำตาลผิดปกติ
  • สายตาพร่ามัว: การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือดอาจกระทบต่อเลนส์ตา

ข้อควรจำ อาการเหล่านี้อาจไม่ปรากฏทั้งหมด หรืออาจไม่ชัดเจนในทุกคน การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการวินิจฉัย และเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด เหมือนกับการตรวจสุขภาพประจำปีที่ควรทำ เพื่อความสบายใจและสุขภาพที่ดีในระยะยาว

(เพิ่มเติม) ปีนี้ (2566) องค์การอนามัยโลกยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีการที่ดีในการป้องกันและควบคุมภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

#พันธุกรรม #รักษาได้ #เบาหวาน