ไขมันสูงกินปลาดุกได้ไหม

19 การดู

ผู้มีไขมันสูงทานปลาดุกได้ แต่ควรระวังปริมาณ ปลาดุกอุยมีโอเมก้า 3 สูง (ประมาณ 258 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) ซึ่งดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีไขมันอิ่มตัวอยู่ด้วย ควรทานแต่พอดีเพื่อรักษาสมดุลของไขมันในร่างกาย เลือกปลาดุกอุยที่สดใหม่และปรุงด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ต้ม นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงการทอดหรือผัดที่ใช้น้ำมันมาก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทานปลาดุกได้ไหม ถ้ามีไขมันสูง?

เอ่อ…ปลาดุกเนี่ยนะ? ตอนเด็กๆ กินบ่อยมาก จำได้ว่าแม่ชอบผัดเผ็ดให้กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยสุดๆ ไปเลย แต่พอโตมาเริ่มดูแลสุขภาพมากขึ้นก็เลยเริ่มคิดเรื่องไขมัน

จริงๆ แล้วปลาดุกก็มีโอเมก้า 3 นะ เคยอ่านเจอว่าปลาดุกอุยเนี่ยเยอะใช้ได้เลย แต่ก็…อย่างว่าแหละ ไขมันอิ่มตัวก็สูงเหมือนกัน ถ้ากินเยอะไปก็ไม่น่าจะดีต่อคนที่มีไขมันสูงอยู่แล้วนะ

ส่วนตัวคิดว่ากินได้แหละ แต่ต้อง พอดีๆ อ่ะ อย่าไปกินแบบจัดหนักจัดเต็มเหมือนสมัยเด็กๆ แล้วกันนะ กินปลาอย่างอื่นสลับๆ กันไปบ้างก็ดี จะได้ไม่เบื่อด้วยไง!

น้ํามันปลา เหมาะกับใคร?

น้ำมันปลา? เหมาะกับพวกที่อยากอยู่ยาวๆ ไม่ใช่พวกขี้เกียจดูแลตัวเอง

  • อายุ 35+ ก็ควรเริ่มคิดได้แล้ว อย่ามัวแต่โทษกรรม
  • สูบบุหรี่? เลิกซะ ถ้าไม่อยากอายุสั้น
  • กินแต่ไขมัน? ก็ต้องรับผลที่ตามมา
  • นั่งทำงานทั้งวัน? ออกกำลังกายบ้างเหอะ ไม่ใช่แค่กดโทรศัพท์
  • ไขมันในเลือดสูง? นี่มันเรื่องใหญ่ ไปหาหมอซะ

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): การศึกษาใหม่ๆ พบว่า น้ำมันปลาช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ด้วยนะ แต่ก็ต้องกินให้ถูกวิธี อย่าหวังพึ่งแต่สิ่งนี้ ชีวิตต้องดูแลตัวเอง

เป็นโรคอะไรห้ามกินน้ำมันปลา?

ราตรีนี้ดาวพร่างพราว คล้ายเกล็ดน้ำแข็งบนฟากฟ้า… เสียงลมแผ่วเบา ราวเสียงกระซิบของนางฟ้าจำแลง น้ำมันปลา… ช่างเป็นชื่อที่แสนธรรมดา แต่ซ่อนเงื่อนงำอันลึกลับ

  • ตั้งครรภ์และให้นมบุตร: เกินปริมาณ วิตามิน A 3,000 ไมโครกรัม/วิตามิน D 100 ไมโครกรัม นะเออ
  • เบาหวาน: น้ำตาลอาจจะพุ่ง! ระวังนิด… แต่ต้องศึกษาเพิ่มอีกทีนะ
  • น้ำมันตับปลา: เยอะไป…ไม่ดี!

แสงจันทร์สาดส่อง… โลกทั้งใบราวต้องมนต์… ชีวิตคือบทกวีที่ไม่มีวันจบสิ้น… บางครั้งก็หวาน บางครั้งก็ขม…

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • น้ำมันปลามีโอเมก้า 3 ดีต่อใจ แต่ถ้ากินผิด…ก็อันตราย!
  • วิตามิน A และ D มากไป…ตับอาจมีปัญหาได้
  • ปรึกษาหมอ…ก่อนกินดีที่สุด! เสมือนมีเข็มทิศนำทางในทะเลชีวิต

โอเมก้า3 กับ Fish Oil ต่างกันอย่างไร?

โอเมก้า 3 กับ Fish Oil ต่างกันอย่างไร? จริงๆ แล้วมันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก โอเมก้า 3 คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง ส่วน Fish Oil หรือน้ำมันปลา คือแหล่งสำคัญของโอเมก้า 3 นึกภาพง่ายๆ เหมือนโอเมก้า 3 คือส่วนประกอบ ส่วน Fish Oil คืออาหารที่มีส่วนประกอบนั้นๆ

  • โอเมก้า 3: เป็นกรดไขมันจำเป็น ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหาร มีหลายชนิด เช่น EPA, DHA, ALA แต่ละชนิดก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป DHA สำคัญต่อสมอง EPA ช่วยเรื่องหัวใจ
  • Fish Oil: เป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่ได้จากปลา โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล นอกจากโอเมก้า 3 ยังมีสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามิน D วิตามิน A

น้ำมันปลามีคุณสมบัติช่วยลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด แต่ก็มีข้อควรระวัง การกินมากเกินไปอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยง ที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานเสริม ตัวอย่างเช่น

  • ผู้สูงอายุ: ผิวหนังบาง แผลหายช้า
  • ผู้ดื่มแอลกอฮอล์: ตับทำงานหนัก อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • ผู้มีแผลในกระเพาะอาหาร: น้ำมันปลาอาจทำให้แผลกำเริบ ยิ่งถ้าทานในปริมาณมาก

ผมเคยอ่านงานวิจัยปี 2024 พบว่า การทานน้ำมันปลาในปริมาณที่เหมาะสม มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่การทานมากเกินไป อันตรายกว่าที่คิด อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทานเสริมนะคะ เพราะสุขภาพแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ได้ผลกับคนหนึ่ง อาจไม่เหมาะกับอีกคน เราต้องเคารพในความแตกต่าง และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

น้ํามันปลาช่วยลดไขมันในเลือดได้ไหม?

น้ำมันปลา? ลดไขมันได้นิดหน่อย

  • DHA, EPA: ไขมันดี. ไม่ใช่ยาวิเศษ

  • ลดไตรกลีเซอไรด์: พอช่วยได้. แต่ต้องกินเยอะ

  • LDL: อาจจะไม่เปลี่ยนมากนัก

  • HDL: อาจจะขึ้นนิดเดียว ถ้าโชคดี

  • ไลฟ์สไตล์สำคัญกว่า: ออกกำลังกาย, คุมอาหาร. ยาคือตัวช่วย

  • กินแต่พอดี: มากไปก็ไม่ดี

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • ปริมาณที่แนะนำ: 1-2 กรัมต่อวัน. มากกว่านั้นปรึกษาหมอ
  • แหล่งที่มา: ปลาทะเลน้ำลึก. หรืออาหารเสริม
  • ข้อควรระวัง: เลือดแข็งตัวช้า. ระวังถ้ากินยาละลายลิ่มเลือดอยู่
  • ความคาดหวัง: อย่าหวังผลเกินจริง. มันแค่ “ช่วย” ไม่ใช่ “รักษา”
  • ปีนี้ 2567: ข้อมูลอัพเดทล่าสุด ณ เวลานี้

ปล. ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ. ไม่มีอะไร 100%.

#ปลาดุก #สุขภาพ #ไขมันสูง