ดื่มน้ำยังไงให้ผิวขาวใส
ดื่มน้ำเพื่อผิวขาวใส 7 ข้อ:
- จิบบ่อยๆ: ดื่มน้ำทีละน้อยตลอดวัน
- สมดุล pH: ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาสมดุล
- ล้างพิษ: ดื่มน้ำสะอาดเพื่อขับสารพิษ
- ลดริ้วรอย: น้ำช่วยชะลอความแก่
- ป้องกันสิว: ดื่มน้ำลดปัญหาสิว
- ชุ่มชื้น: เติมน้ำให้ผิวฉ่ำวาว
ดื่มน้ำอย่างไรให้ผิวขาวใสอมชมพู?
เอาจริงๆ นะ เรื่องดื่มน้ำให้ผิวขาวอมชมพูเนี่ย ฉันว่ามันก็มีส่วนแหละ แต่ไม่ได้ถึงขนาดกินปุ๊บขาวปั๊บอะไรขนาดนั้นหรอก (ขำ)
คืออย่างงี้ สมัยก่อนตอนเด็กๆ แม่ชอบบอกให้ดื่มน้ำเยอะๆ จะได้ผิวดี แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจไง กินน้ำน้อยมากกก ผิวก็คล้ำเสียตามประสาเด็กซน เล่นกลางแดด (หัวเราะ)
แต่พอโตขึ้นมา เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น ดื่มน้ำเยอะขึ้นจริงๆ นะ แล้วก็รู้สึกว่าผิวมันดูชุ่มชื้นขึ้น สุขภาพดีขึ้น แต่เรื่องขาวอมชมพู… อันนี้อาจจะต้องบวกกับครีมบำรุง และกันแดดด้วยแหละ
ส่วนตัวฉันว่า การดื่มน้ำช่วยให้ผิวใสขึ้นมากกว่านะ แบบว่ามันขับของเสียออกจากร่างกายไง พอร่างกายสะอาด ผิวก็เลยดูสดใสขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าอยากขาวแบบเห็นผลไว อาจจะต้องพึ่งวิธีอื่นร่วมด้วยจ้ะ (กระซิบ)
กินอะไรให้ผิวใส มีน้ํามีนวล
โอ๊ย! อยากหน้าเด้งแบบสาวเกาหลีเหรอ? ง่ายๆ เลยจ้ะพี่น้อง! กินเข้าไป! กินเข้าไป! กินผักผลไม้สีรุ้งไปเลย!
- สีแดง: มะเขือเทศนี่ตัวดี! แดงเถือกมาแต่ไกล ไลโคปีนเต็มเหนี่ยว! กันแดดได้นิดหน่อย (แต่ครีมกันแดดก็ต้องทานะ!)
- สีส้ม: แครอทไงแก! กินแล้วตาดี ผิวก็ดีตาม! เบต้าแคโรทีนช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง (แต่กินมากไปก็เหลืองเป็นไก่ได้นะจ๊ะ!)
- สีเหลือง: มะม่วงสุกไงเล่า! หวานเจี๊ยบ แถมวิตามินซีสูงปรี๊ด! หน้าใสกว่ากินกลูต้า (มั้งนะ?)
- สีเขียว: บรอกโคลี! ผักขม! เขียวๆ นี่แหละของดี! ไฟเบอร์เยอะ ขับถ่ายคล่อง หน้าก็ใสตาม (แต่กินเยอะไปก็ผายลมไม่หยุดนะ!)
- สีม่วง: องุ่นดำ! บลูเบอร์รี่! แอนโทไซยานินสูงปรี๊ด! ต้านแก่ ต้านแดด (แต่กินเยอะไปก็ฟันดำนะเออ!)
คำเตือน: กินผักผลไม้อย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ผิวดีเหมือนเสกนะจ๊ะ! ต้องนอนให้พอ ออกกำลังกายบ้าง ดื่มน้ำเยอะๆ ด้วย! ที่สำคัญ…กรรมพันธุ์ก็มีส่วน! ถ้าพ่อแม่หน้าใส ลูกก็มีแวว! แต่ถ้าพ่อแม่หน้าสิว ลูกก็…ทำใจ! 555+
แถมท้าย (แบบบ้านๆ):
- กินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น! ช้อนเดียวตอนเช้า! ผิวลื่นปรื๊ด! (แต่บางคนกินแล้วท้องเสียนะ!)
- ขัดผิวด้วยมะขามเปียก! อาทิตย์ละครั้ง! หน้าใสวิ๊ง! (แต่ระวังแสบหน้า!)
- กินคอลลาเจน! ช่วยได้จริงมั้ย? ไม่รู้! แต่กินไปเถอะ! สบายใจ! (แต่แพงนะ!)
สรุป: กินผักผลไม้ไปเถอะ! ยังไงก็ดีกว่ากินหมูกระทะทุกวัน! อย่างน้อยก็สบายใจ!
หน้าซูบผอม เกิดจากอะไร
หน้าซูบผอมเหรอ? อ๋อ! คือหน้ามัน “fail” ในการแข่งขันกินจุไงล่ะ (ล้อเล่นนะ!) จริงๆ มันเหมือนต้นไม้ขาดน้ำอะ ใบก็เหี่ยว หน้าก็เหี่ยวเหมือนกัน
-
ผอมไวไปหน่อย: ลดน้ำหนักผิดวิธี ชีวิตเปลี่ยนจาก “อวบอิ่ม” เป็น “อดอยาก” ในพริบตา หน้าเลยตอบเหมือนโดนใครตบมา (เบาๆนะ)
-
กินแต่มาม่า: สารอาหารไม่พอ เหมือนรถที่เติมแต่น้ำมันปลอม เครื่องก็พัง หน้าก็พัง!
-
พ่อแม่ให้มา: บางทีก็โทษกรรมพันธุ์ไม่ได้หรอก (โทษตัวเองที่ไม่รวยพอไปทำศัลยกรรมดีกว่า!)
-
อายุเป็นเพียงตัวเลข (ที่โกหกไม่ได้): คอลลาเจนมันหนีไปเที่ยวหมดแล้วไง! เหลือแต่ความจริงที่โหดร้าย
-
วิธีแก้ขัด (แบบคนขี้เกียจ):
- ฟิลเลอร์: ฉีดปุ๊บ ป่องปั๊บ (แต่เงินในกระเป๋าก็แฟ่บตาม)
- เติมไขมัน: เอาไขมันส่วนเกินมาโปะหน้าซะ (เหมือนเอาขยะมาถมที่!)
- กินให้ตายไปเลย: น้ำหนักขึ้น หน้าก็อิ่ม (แถมโรคภัยไข้เจ็บถามหา)
- ร้อยไหม: ดึงหน้าให้ตึง (แต่ระวังหน้าขาดนะ!)
- ศัลยกรรม: จัดเต็มไปเลย (ถ้ามีเงินเหลือนะ!)
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้):
- ปี 2567: เทรนด์หน้า “Glass Skin” ยังคงอยู่ แต่หน้า “อิ่มฟู” ก็เริ่มมาแรงแซงโค้งแล้ว (เตรียมเงินในบัญชีให้พร้อม!)
- Pro Tip: ดื่มน้ำเยอะๆ นอนให้พอ กินอาหารที่มีประโยชน์ (แต่ใครจะทำตาม?)
- Disclaimer: คำแนะนำทั้งหมดนี้เป็นเพียง “มุกตลก” อย่าเชื่อทั้งหมด! ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด (ถ้ามีตังค์นะ!)
ทํายังไงให้แก้มลดลง
อยากแก้มยุบ? ไม่ใช่เรื่องยาก
-
ออกกำลังกาย: Cardio ช่วยได้จริง วิ่ง ปั่นจักรยาน สัปดาห์ละ 3-4 วัน อย่างต่ำ 30 นาที เห็นผลช้าแต่แน่นอน ส่วนตัวผมชอบวิ่งตอนเช้า มันส์ดี
-
อาหาร: งดของหวาน น้ำตาล พวกขนมปังขาว ข้าวขาว เลือกโปรตีน ผักผลไม้ ลดแป้งลง ลองดู keto ผมเคยลดไป 5 โลภายในเดือนเดียว แต่ต้องใจแข็ง
-
นอน: สำคัญมาก นอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมง ห้ามนอนดึก ผิวพัง แก้มบวม เรื่องจริง
-
น้ำ: ดื่มเยอะๆ ช่วยล้างสารพิษ ช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น
-
แอลกอฮอล์: ตัดไปเลย บวมแน่นอน ผมเคยลองดื่มหนัก หน้าบวมเป็นอาทิตย์
-
เป่าลูกโป่ง: ช่วยได้จริง แต่ไม่ใช่ทางลัด ต้องทำบ่อยๆ ขี้เกียจทำ
-
แต่งหน้า: เทคนิคการแต่งหน้าช่วยได้ แต่แค่กลบเกลื่อน
-
เมโสแฟต: วิธีนี้เห็นผลไวสุด แต่ก็แพง ผมเคยทำ โอเคเลย แต่ต้องดูแลตัวเองต่อเนื่อง ไม่งั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิม
กินอะไรแก้มเยอะ
ทำไมคนแก้มป่อง แก้มยุ้ย กินอะไรถึงแก้มเยอะ?
แก้มเยอะไม่ใช่แค่เรื่องกินอย่างเดียวหรอกคุณ มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้หน้าเราดูกลมดิ๊กขึ้นมาได้
- อาหาร: แน่นอนว่าของหวาน น้ำตาลสูง แป้งขัดสี เป็นตัวการสำคัญ ทำให้ร่างกายสะสมไขมัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ไปลงที่แก้มอย่างเดียวนะ ลงพุงด้วย! ยิ่งถ้าดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ หน้าจะบวมๆ อิ่มน้ำ
- พันธุกรรม: บางทีก็โทษใครไม่ได้ ต้องโทษบรรพบุรุษ! ถ้าพ่อแม่แก้มเยอะ เราก็มีสิทธิ์แก้มยุ้ยตามไปด้วย เป็นเรื่องของโครงสร้างหน้า
- อายุ: พออายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังมันก็น้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย แก้มเลยดูห้อยๆ บวมๆ
- ฮอร์โมน: โดยเฉพาะในผู้หญิง ช่วงมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์ ฮอร์โมนมันจะเปลี่ยนแปลง ทำให้ตัวบวมน้ำ แก้มก็พลอยบวมไปด้วย
แล้วทำไมบางคนกินเยอะแต่ไม่อ้วน?
มันอยู่ที่ระบบเผาผลาญของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเพราะร่างกายเผาผลาญดีมาก แต่บางคนแค่กินนิดหน่อยก็อ้วนเอาๆ นอกจากนี้ การออกกำลังกายก็มีส่วนสำคัญ คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่างกายจะเผาผลาญไขมันได้ดีกว่า
เพิ่มเติม:
- เรื่องความเครียดก็มีผลนะ บางคนเครียดแล้วกินเยอะ กินของหวานๆ มันๆ เพื่อลดความเครียด ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้แก้มเยอะขึ้นไปอีก
- เคยได้ยินเรื่อง “Face Yoga” ไหม? เขาว่ากันว่ามีท่าบริหารหน้าที่จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าเรียวขึ้นได้ แต่ส่วนตัวยังไม่เคยลองนะ
- บางทีแก้มเยอะอาจจะไม่ได้เป็นที่ไขมันอย่างเดียว อาจจะเป็นที่กล้ามเนื้อก็ได้ พวกคนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกินอะไรเหนียวๆ อาจจะมีกล้ามเนื้อกรามที่แข็งแรง ทำให้หน้าดูกว้างขึ้น
สุดท้ายแล้ว เรื่องแก้มเยอะแก้มยุ้ย มันเป็นเรื่องของความมั่นใจ ถ้าเรามั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าหน้าตาเราจะเป็นยังไง เราก็สวยในแบบของเราได้!
ทําไมบางคนถึงตัวผอมแต่แก้มเยอะ
ผอมแต่แก้มป่อง? เรื่องธรรมดา
ไขมัน: แก้มเยอะไม่ได้แปลว่าอ้วนทั้งตัว บางทีไขมันมันเลือกที่ลง
กรรมพันธุ์: พ่อแม่แก้มเยอะ ลูกก็มีสิทธิ์เยอะตาม
โครงสร้างหน้า: กระดูกมันเป็นทรงนี้ แก้มเลยดูเด่น
อายุ: แก้มเด็ก กับแก้มคนแก่ มันต่างกัน เข้าใจตรงกันนะ
ฮอร์โมน: บางทีฮอร์โมนมันก็สั่งให้แก้มบวม
จะเอาออก?
- ดูดไขมัน: ถ้ามีเงิน ก็จัดไป
- ฉีดสลายไขมัน: เจ็บน้อยกว่า แต่ต้องฉีดซ้ำ
- ผ่าตัด: เอากระพุ้งแก้มออกไปเลย จบๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- การสะสมไขมันเฉพาะจุด: กรรมพันธุ์มีผลกับการกระจายไขมันในร่างกาย บางคนผอมแต่มีพุง บางคนผอมแต่แก้มออก
- โครงสร้างกระดูก: รูปทรงของกระดูกโหนกแก้มและกราม มีผลต่อลักษณะของแก้ม
- อายุ: ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นตามอายุ ทำให้แก้มหย่อนคล้อย ดูใหญ่ขึ้น
- ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงมีประจำเดือน อาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำที่ใบหน้า
- การรักษา: การเลือกวิธีรักษาขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน, โครงสร้างหน้า, และความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ทำไงให้หน้าไม่ตอบ
เอ้า! แก้มตอบเนี่ยนะ ปัญหาโลกแตกของใครหลายคน! เหมือนโดนหมาหิวกัดไปครึ่งซีกเลยอ่ะ จะทำไงให้หน้าไม่ตอบล่ะ? บอกเลยว่ามีทางออก! แต่เลือกดีๆล่ะ ไม่งั้นหน้าพัง เหมือนโดนผีอำกลางดึก ไปดูกันเลย!
-
ฉีดฟิลเลอร์: ง่ายๆ สะดวก เหมือนเติมลมยางรถ แต่แพงนะจ๊ะ เหมือนซื้อรถใหม่คันนึงเลย! ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานด้วย เดี๋ยวก็ยุบ เหมือนความรักของวัยรุ่น ไวเหมือนโกหก
-
ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม: อันนี้ไม่รู้ ไม่เคยลอง แต่ฟังดูน่ากลัว เหมือนกินส้มเปรี้ยวแล้วโดนต่อย ถ้าอยากลอง เอาให้แน่ใจก่อนนะ มิฉะนั้นหน้าบานเหมือนวงเดือน
-
ร้อยไหม: วิธีธรรมชาติ เหมือนถักเปียให้แก้ม แต่เจ็บนะ เหมือนโดนผึ้งต่อยรัวๆ ผลลัพธ์ก็อยู่ได้นานพอควร แต่ก็ไม่ใช่ตลอดไป เหมือนความทรงจำดีๆบางอย่าง
-
ฉีดไขมัน: เอาไขมันตัวเองมาฉีด เหมือนเอาของเก่ามาใช้ใหม่ ประหยัดดี แต่ก็ต้องดูแลตัวเอง เหมือนเลี้ยงลูก ต้องใส่ใจ!
-
ศัลยกรรม: จัดเต็ม! เหมือนสร้างบ้านหลังใหม่ แต่เสี่ยงนะ เหมือนปีนเขาไม่ดูทาง ต้องหาหมอที่ไว้ใจได้ ไม่งั้นหน้าเปลี่ยนไปเป็นอื่น เสี่ยงเหมือนเล่นการพนัน
-
วิตามิน อาหารเสริม: วิธีธรรมชาติที่สุด! เหมือนปลูกต้นไม้ ต้องใช้เวลานาน อาจได้ผลบ้าง อาจไม่ได้บ้าง เหมือนลุ้นหวย แต่ปลอดภัยกว่าวิธีอื่นๆ
-
เพิ่มน้ำหนัก: วิธีสุดท้าย แต่ได้ผลชัวร์! เหมือนอ้วนขึ้นมาเลย แต่ต้องระวังด้วยนะ ถ้าอ้วนไม่เท่ากัน หน้าอาจจะดูตลก เหมือนโดนปั้นหน้าจากดินเหนียว
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): ราคาแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับคลินิก แพทย์ และปริมาณที่ใช้ ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ อย่าไปหลงเชื่อพวกโปรโมชั่นเกินจริง ระวังหน้าพังนะจ๊ะ! ปีนี้เห็นเทรนด์ “ไขมันตัวเอง” มาแรงอยู่นะ แต่ก็แพงอยู่ดีเหมือนกัน! เลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและงบประมาณดีที่สุด อย่าลืมดูรีวิวด้วยนะ สำคัญมากๆ เหมือนเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ ต้องดูรีวิวเยอะๆ ถึงจะมั่นใจ
ลดแก้มต้องทำหัตถการอะไร
เออ เรื่องแก้มเนี่ยฉันก็มีปัญหานะ คือแบบถ่ายรูปทีไรหน้าบานทุกที เพื่อนชอบล้อว่าหน้าเหมือนซาลาเปา เสียเซลฟ์สุด ๆ เคยไปปรึกษาหมอที่คลินิกแถวสยามตอนเดือนมีนา ปี 67 นี่เอง หมอแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า แต่ฉันกลัวเข็มมาก เลยยังไม่กล้าทำ คิดว่าจะลอง Meso Fat สลายไขมันแก้มดูก่อน เห็นเพื่อนทำแล้วแก้มยุบลงเยอะเลย แต่ก็แอบกลัวเจ็บอยู่เหมือนกัน รอดูรีวิวก่อนแล้วกัน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ค่อยไปฉีดโบท็อกซ์
อีกอย่างที่คิดไว้คือ HIFU เห็นว่าช่วยยกกระชับหน้าได้ แต่ราคาแรงเอาเรื่องอยู่ ต้องเก็บตังค์ก่อน Thermage ก็อยากลองนะ แต่คงอีกนาน งบน้อย 555 จัดฟันนี่เคยคิดเหมือนกัน แต่ตอนนี้แก่แล้ว ขี้เกียจใส่เหล็ก ร้อยไหมก็กลัวหน้าเบี้ยว เพื่อนเคยทำแล้วหน้าแข็งเป็นหินเลย หลอนมากกกก
ส่วนลูกกลิ้งนวดหน้า เคยซื้อมาลองแล้ว ไม่ได้ผลเลย เสียตังค์ฟรี เป่าลูกโป่งก็เคยทำ เหนื่อยมาก หน้าก็ไม่เล็กลง สรุปคือยังหาทางลดแก้มที่ถูกใจไม่ได้เลย ตอนนี้พยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย กับนวดหน้าเองไปก่อน เผื่อจะช่วยได้บ้าง ใครมีวิธีดี ๆ แนะนำบ้างมั้ยเนี่ยยยย เครียดดดด
- Botox ลิฟกรอบหน้า: กลัวเข็มอยู่เลยยังไม่กล้า
- Meso Fat: น่าสนใจ กำลังดูรีวิว
- HIFU: อยากทำแต่แพง
- Thermage: แพงกว่า HIFU อีก
- จัดฟัน: ขี้เกียจใส่เหล็กตอนนี้
- ร้อยไหม: กลัวหน้าเบี้ยว
- ลูกกลิ้งนวดหน้า: ลองแล้ว ไม่ได้ผล
- เป่าลูกโป่ง: เหนื่อย ไม่เห็นผล
- ควบคุมอาหาร + ออกกำลังกาย: กำลังทำอยู่
- นวดหน้าเอง: ทำบ้างประปราย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต