แคลเซียมกินเวลาไหนดีที่สุด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานแคลเซียม: คู่มือฉบับสมบูรณ์

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายสำหรับการทำงานของกระดูก ฟัน กล้ามเนื้อ และเส้นประสาทที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม ร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมได้เอง ดังนั้นเราจึงต้องได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานแคลเซียมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงเวลาที่ร่างกายมีการดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุด และอาหารอื่นๆ ที่บริโภคควบคู่ไปด้วย

การดูดซึมแคลเซียม

การดูดซึมแคลเซียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ กรดในกระเพาะอาหาร วิตามินดี และปริมาณไฟเตตในอาหารที่รับประทาน

• กรดในกระเพาะอาหาร: กรดในกระเพาะอาหารจะช่วยละลายแคลเซียม ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น
• วิตามินดี: วิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้
• ไฟเตต: ไฟเตตเป็นสารต้านการดูดซึมที่พบในอาหารบางชนิด เช่น ผักโขมและถั่ว ไฟเตตจะจับกับแคลเซียมและป้องกันการดูดซึม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานแคลเซียม

โดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานแคลเซียมพร้อมกับอาหาร เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารจะเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุด

หากรับประทานอาหารเป็นมื้อๆ

หากคุณรับประทานอาหารเป็นมื้อๆ แนะนำให้รับประทานแคลเซียมพร้อมกับอาหารมื้อที่มีโปรตีนสูง เนื่องจากโปรตีนช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม

ตัวอย่างเช่น คุณอาจรับประทานอาหารเช้าที่มีโยเกิร์ตและผลไม้ หากคุณต้องการเพิ่มแคลเซียม คุณอาจเพิ่มนมหนึ่งแก้วหรือชีสหนึ่งชิ้นลงในอาหารเช้าของคุณ

หากรับประทานอาหารแบบต่อเนื่อง

หากคุณรับประทานอาหารแบบต่อเนื่อง คุณอาจกระจายการรับประทานแคลเซียมตลอดทั้งวัน วิธีนี้ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเพิ่มการดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น คุณอาจรับประทานนมหนึ่งแก้วในตอนเช้า ชีสหนึ่งชิ้นในตอนกลางวัน และโยเกิร์ตหนึ่งถ้วยในตอนเย็น

อาหารที่ควรรับประทานร่วมกับแคลเซียม

เพื่อให้แน่ใจว่าการดูดซึมแคลเซียมสูงสุด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแคลเซียมพร้อมกับอาหารที่มีไฟเตตสูง เช่น

• ผักโขม
• ผักคะน้า
• ถั่ว
• เมล็ด
• ข้าวไม่ขัดสี

นอกจากนี้ ควรจำกัดการรับประทานกาแฟและแอลกอฮอล์ เนื่องจากสารเหล่านี้สามารถยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม

ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำ

ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำต่อวันจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุและเพศ โดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานแคลเซียมดังนี้

• ผู้ใหญ่: 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
• ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป): 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน
• เด็กและวัยรุ่น: 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน

หากคุณคิดว่าคุณอาจไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอจากอาหาร คุณอาจพิจารณาการรับประทานอาหารเสริมแคลเซียม ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับคุณ

ข้อสรุป

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานแคลเซียมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานแคลเซียมพร้อมกับอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแคลเซียมพร้อมกับอาหารที่มีไฟเตตสูง กระจายการรับประทานแคลเซียมตลอดทั้งวันเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณเสมอ