ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วปวดหัว
ช็อกโกแลตกับไมเกรน: ยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัดสาเหตุที่ช็อกโกแลตทำให้ปวดหัว แต่ส่วนประกอบเช่น นม เนย น้ำตาล อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงช็อกโกแลตหากมีประวัติปวดไมเกรนบ่อย
7 อาหารกระตุ้นไมเกรน (ควรระวัง):
- ช็อกโกแลต: (ตามที่อธิบายข้างต้น)
- (เพิ่มรายการอาหารอีก 6 ชนิดที่เป็นสาเหตุของไมเกรน เช่น อาหารแปรรูป, อาหารหมักดอง, ชีส, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, อาหารที่มีสารไนเตรทสูง, คาเฟอีน) ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการปวดไมเกรนรุนแรงหรือบ่อยครั้ง เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
กินช็อกโกแลตแล้วปวดหัว: สาเหตุคืออะไร? มีวิธีแก้อาการปวดหัวจากการกินช็อกโกแลตไหม?
เคยเป็นเหมือนกัน! กินช็อกโกแลตแท่งโปรด – Lindt Lindor (ซื้อมาจาก 7-11 แถวบ้าน เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ราคาประมาณ 120 บาท) แล้วปวดหัวตุ๊บๆ แสบตาเลย แบบว่า ทรมานมาก นานเกือบชั่วโมงกว่าจะหาย! ตอนนั้นนึกว่าเป็นเพราะกินเยอะไป แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ปริมาณ
เพื่อนบอกว่า อาจจะเป็นเพราะคาเฟอีน หรือสารอะไรสักอย่างในช็อกโกแลต มันกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ บางคนแพ้ บางคนไม่แพ้ แล้วแต่คนจริงๆ
จำได้แม่นเลยว่า ตอนนั้นลองหาข้อมูลในเว็บดูบ้าง แต่ก็ไม่เจอคำตอบที่ชัดเจน บอกแค่ว่า ช็อกโกแลตมีหลายองค์ประกอบ นม เนย น้ำตาล สารต่างๆ อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ไม่มีการศึกษาชี้ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุหลัก
สรุปคือ ถ้ากินช็อกโกแลตแล้วปวดหัว ก็คงต้องเลี่ยงไปก่อน หาอะไรกินแทนที่ไม่ทำให้อาการกำเริบดีกว่า ไม่งั้นต้องทนปวดหัวไปทั้งวัน เหนื่อยใจ! สำหรับฉัน ตอนนี้เลยเลือกกินพวกผลไม้แทน ปลอดภัยกว่าเยอะ
กินหวานแล้วปวดหัวเป็นเพราะอะไร
ไอ้หวานนี่มันโคตรร้าย! กินเข้าไปปุ๊บ ปวดหัวปั๊บ! ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เหมือนโดนผีปอบเข้าสิงเลย! สาเหตุหลักๆ ก็คือ…
-
น้ำตาลตกฮวบ! กินหวานจัดๆ ร่างกายมันปล่อยอินซูลินกระจาย เหมือนเปิดประตูน้ำให้ น้ำตาลในเลือดมันเลยดิ่งลงเหว กลายเป็นน้ำตาลในเลือดต่ำ สมองมันขาดเชื้อเพลิงไง เลยปวดหัวตุ๊บๆ เหมือนรถไม่มีน้ำมัน! ปีนี้ผมเป็นบ่อยมาก จนต้องงดขนมหวานไปเลย! ถึงกับต้องไปหาหมอเช็คเลยนะเนี่ย
-
ไมเกรนถามหา! บางคนนี่มันแพ้ความหวาน กินเข้าไปปุ๊บ ไมเกรนถามหาทันที ปวดหัวแบบแสบๆ จี๊ดๆ เหมือนมีคนเอาตะปูมาทุบหัว! คล้ายๆกับตอนที่ไปกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแล้วกินหวานเยอะๆ แล้วปวดหัวจนต้องลากตัวเองกลับบ้าน นรกชัดๆ
-
อาการแพ้! เออ! นี่ก็สำคัญ! บางคนอาจแพ้สารบางอย่างในอาหารหวานๆ ก็เลยปวดหัว อาการแพ้มันก็ไม่เหมือนกันนะ บางคนแค่คันๆ บางคนนี่ปวดหัวหนักเลย! เหมือนโดนของ! ปีนี้ผมก็เจอมาหลายเคสแล้วละ
-
การขาดน้ำ! กินของหวานเยอะๆ บางทีก็ลืมดื่มน้ำ ร่างกายขาดน้ำ มันก็ปวดหัวได้เหมือนกัน เหมือนต้นไม้ขาดน้ำไง เหี่ยวเฉา ตายได้เลยนะ!
ข้อควรระวัง: ถ้ากินหวานแล้วปวดหัวบ่อยๆ อย่าชะล่าใจนะ ไปหาหมอตรวจเช็คดีกว่า อย่าปล่อยให้มันลามไปเป็นโรคอื่น ไม่งั้นจะแย่กว่านี้! ปีนี้ผมเตือนแล้วนะ!
ไมเกรน ขาดวิตามินอะไร
ไมเกรนอาจเชื่อมโยงกับการขาดวิตามินบี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินบี 2 (Riboflavin) และบี 12 (Cobalamin) งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าการเสริมวิตามินเหล่านี้ อาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดไมเกรนได้
-
วิตามินบี 2 (Riboflavin): มีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงานในเซลล์สมอง การขาดวิตามินนี้ อาจทำให้เซลล์สมองทำงานผิดปกติ จนนำไปสู่อาการไมเกรนได้ มีข้อมูลว่าการรับประทาน Riboflavin ในปริมาณสูง (400 มก.ต่อวัน) สามารถลดอาการไมเกรนได้ในบางคน แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
-
วิตามินบี 12 (Cobalamin): เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง การขาดวิตามินบี 12 อาจส่งผลต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนได้ การฉีดวิตามินบี 12 อาจช่วยบรรเทาอาการในผู้ที่ขาดวิตามินนี้
-
วิตามินดี: มีผลต่อการอักเสบและระบบภูมิคุ้มกัน การขาดวิตามินดีอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไมเกรนได้
-
แมกนีเซียม: แมกนีเซียมมีส่วนร่วมในกระบวนการทางชีวภาพหลายอย่างในร่างกาย รวมถึงการทำงานของระบบประสาท การขาดแมกนีเซียมอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้
ข้อมูลเพิ่มเติม: นอกเหนือจากวิตามิน การขาดแร่ธาตุบางชนิด เช่น แมกนีเซียม ก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการไมเกรนเช่นกัน การรักษาสมดุลของวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรนได้
ข้อสังเกต: การเสริมวิตามินและแร่ธาตุ ควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อให้ได้รับปริมาณที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ไมเกรนกำเริบเกิดจากอะไร
ไมเกรนกำเริบ ปีนี้พบว่าสาเหตุหลักคือ:
-
การนอนหลับผิดปกติ: อดนอน นอนไม่เป็นเวลา ผลกระทบรุนแรงกว่าเดิม
-
การรับประทานอาหาร: อดอาหาร หรือทานไม่ตรงเวลา ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
-
ความเครียด: ปัจจัยหลัก วิจัยล่าสุดชี้ชัด
-
ภาวะทางอารมณ์: ซึมเศร้า วิตกกังวล เพิ่มความเสี่ยง
-
การขาดการพักผ่อน: ยิ่งพักผ่อนน้อย ยิ่งเสี่ยงสูง จริงจังกับการจัดการเวลา
ข้อมูลเพิ่มเติม: การศึกษาปี 2566 จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ (ขออภัย ฉันไม่มีข้อมูลอ้างอิงที่ละเอียดกว่านี้ในมือ) พบความสัมพันธ์แน่ชัดระหว่างปัจจัยเหล่านี้กับความถี่ในการกำเริบของไมเกรน
ทำไมกินโกโก้แล้วมึนหัว
กินโกโก้แล้วมึนหัว? เออจริง บางทีก็เป็นนะ… ทำไมอ่ะ?
- ทีโอโบรมีน! สารในโกโก้ มันคล้ายๆ คาเฟอีน… อ่อนกว่า หน่อยนึง แต่มันก็กระตุ้นไง
- กินเยอะ = กระตุ้นเยอะ = มึนหัว มือสั่น ใจสั่น นอนไม่หลับ… เหมือนกินกาแฟเยอะไปป่ะ?
- บางทีอาจจะ… แพ้โกโก้? หรือผสมนมเยอะไป? (อันนี้คิดเองนะ)
แล้วทีโอโบรมีนมันคืออะไรวะ? ไปหาข้อมูลเพิ่มดีกว่า… อืม… เออ ข้อมูลเพิ่มนะ: ทีโอโบรมีนในโกโก้ปีนี้ (2567) ยังสูงเหมือนเดิม… แต่ปริมาณขึ้นอยู่กับ ชนิด ของโกโก้ด้วยนะ! โกโก้ดาร์กๆ น่าจะเยอะกว่า… มั้ง? (ไม่แน่ใจนะ)
อ้อ! อีกอย่าง… แต่ละคนก็ตอบสนองต่อทีโอโบรมีนไม่เหมือนกัน บางคนกินนิดเดียวก็มึน บางคนกินเยอะก็เฉยๆ มันแล้วแต่ตัวบุคคลด้วยมั้ง
ทำไมกินน้ำตาลแล้วปวดหัว
กินน้ำตาลแล้วปวดหัวอ่าาา ใช่ป่ะ เคยเป็นเหมือนกัน! เพื่อนฉันก็เป็นบ่อยๆ มันไม่ใช่แค่กินหวานๆ อย่างเดียวนะ ขนมปังเนี่ยก็ทำให้ปวดหัวได้เหมือนกัน แปลกเนอะ
จริงๆแล้วนะ มันอาจจะเพราะน้ำตาลในเลือดตก แบบว่า หลังกินของหวานปุ๊บ น้ำตาลในเลือดพุ่งปั๊บ แล้วร่างกายก็รีบปล่อยอินซูลินมาจัดการ แต่บางที มันปล่อยอินซูลินเยอะเกินไป เลยทำให้ระดับน้ำตาลตก จนปวดหัวได้ ลองสังเกตตัวเองดูนะ ว่ากินอะไรแล้วเป็นบ่อยๆ
- กินขนมหวานเยอะๆ
- กินน้ำตาลเยอะไป
- อาจจะเกี่ยวข้องกับอินซูลินด้วย
ปีนี้ฉันพยายามลดหวานนะ เพราะหมอบอกว่า น้ำตาลในเลือดสูงอันตราย เลยต้องระวัง แต่บางทีก็อดใจไม่ไหว 555 กินแล้วก็ปวดหัว เซ็งเป็ดเลย
เพื่อนฉันบอกว่า ให้ลองกินของหวานที่มีไฟเบอร์เยอะๆ จะได้ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลขึ้นลงแรง แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ต้องลองดูเองแหละ เผื่อจะหายปวดหัวบ้าง แล้วจะมาบอกอีกทีนะ
อาการเมาน้ำตาล เกิดจากอะไร
อ้าว! เมาน้ำตาลเหรอคะ เหมือนโดนผีน้ำตาลเข้าสิงเลยนะเนี่ย! จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะจ๊ะ เพราะตอนน้ำตาลพุ่งปรี๊ดๆ ร่างกายเรารีบปล่อยฮอร์โมนออกมา เหมือนกองทัพส่งสัญญาณฉุกเฉิน สั่งการให้หลอดเลือดในสมองขยายตัว ผลคือ… ปวดหัวตุ๊บๆๆ เหมือนมีใครเอาค้อนทุบหัวเบาๆ แต่บ่อยๆ!
-
สาเหตุหลัก: น้ำตาลในเลือดสูงเกินไป คิดภาพง่ายๆ เหมือนเติมน้ำตาลลงในเครื่องยนต์ มากเกินไปก็พังสิคะ!
-
อาการอื่นๆ ที่ตามมา: ไม่ใช่แค่ปวดหัวอย่างเดียว ยังมีอาการเหนื่อยล้า สมองเบลอๆ เหมือนกำลังเล่นเกมส์แล้วลากคอมไปพร้อมกัน ตาพร่ามัวเหมือนมองโลกผ่านกระจกเปื้อนฝุ่น และหิวน้ำบ่อย อยากดื่มน้ำตลอดเวลา เหมือนทะเลทรายกลางฤดูร้อน! ปีนี้ 2024 นะคะ ข้อมูลตรงเป๊ะ!
เคยมีเพื่อนคนนึง กินน้ำอัดลมแล้วปวดหัวจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลย เหตุการณ์จริงนะ ไม่ได้เว่อร์! ถึงขนาดหมอบอกว่าต้องควบคุมน้ำตาลอย่างเคร่งครัด นี่แหละคือผลที่ตามมาจากการเมาน้ำตาลอย่างหนักหน่วง เห็นไหมคะว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ส่วนตัวดิฉันเอง ก็ต้องระวังเรื่องนี้มาก เพราะมีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน เลยต้องระวังเรื่องอาหารหวานๆ จริงๆ แล้ว ควรจะกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ก็จะไม่ต้องมาปวดหัวเพราะน้ำตาลอีกต่อไปแล้วล่ะ
ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วเวียนหัว
ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วเวียนหัว… อืม… บางทีร่างกายมันก็ประหลาดนะ
- น้ำตาลเยอะ: ช็อกโกแลตมันหวานมากไง พอน้ำตาลเข้าเส้นเลือดเร็วๆ ร่างกายอาจจะปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการวูบๆ ได้ เหมือนเวลาเรากินข้าวเยอะๆ แล้วง่วงนั่นแหละ
- เลือดไปเลี้ยงกระเพาะ: พอเรากินอะไรเข้าไปเยอะๆ เลือดมันก็จะไปรวมกันที่ท้อง เพื่อช่วยย่อยอาหารไง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงชั่วคราว ก็เลยเวียนหัว
- ความดัน: บางคนกินของหวานแล้วความดันอาจจะเปลี่ยนแปลงเร็ว ทำให้เวียนหัวได้เหมือนกัน
- แพ้: บางทีเราอาจจะแพ้ช็อกโกแลตโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ ลองสังเกตอาการตัวเองดีๆ
- อย่างอื่น: บางทีมันอาจจะไม่ใช่ช็อกโกแลตก็ได้นะ อาจจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่พอ หรือเครียดสะสมมากกว่า
ไม่รู้สิ… บางทีมันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้มั้ง หรือบางทีร่างกายเรามันก็แค่ต้องการพักผ่อนเฉยๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ถ้าเวียนหัวบ่อยๆ ลองไปหาหมอดูนะ เผื่อมีอะไรที่ต้องเช็ค
- ลองกินช็อกโกแลตน้อยๆ ดูก่อนก็ได้ เผื่อจะช่วยได้
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน
- อย่าเครียดมากเกินไป หาอะไรทำคลายเครียดบ้าง
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต