โกโก้ กินแล้วนอนหลับไหม

โกโก้มีคาเฟอีนเยอะไหม

โอ้โห! ถามเรื่องโกโก้กับคาเฟอีนนี่มันเรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย! บอกเลยว่าโกโก้ร้อนแก้วนึงแค่จิ๊บๆ คาเฟอีนน้อยกว่าน้ำอัดลมกระป๋องเดียวซะอีก! ประมาณ 8-12 มิลลิกรัมเองค่ะคุณขาาาาา นิดเดียวจริงๆ! เหมือนเอาแมลงสาบมาชั่งน้ำหนักเลยอ่ะ (อย่าไปคิดมากนะ แค่เปรียบเทียบเฉยๆ)

• โกโก้ร้อน (1 แก้ว): 8-12 มก. (น้อยมากกกกกกกกกก)
• น้ำอัดลม (1 กระป๋อง): 37 มก. (เยอะกว่าเยอะ!)
• ช็อกโกแลต (1 ชิ้น): 25-30 มก. (ช็อคโกแลตดำยิ่งเยอะ)

ส่วนเรื่องคนท้องเลี่ยงกาแฟ โกโก้ ชาเขียว… เอาง่ายๆ คือคาเฟอีนมันไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นแรง บางทีอาจจะส่งผลต่อการนอนหลับของแม่และลูกในท้องได้ ไม่ใช่ว่าห้ามเด็ดขาดนะ แต่ควรระวังปริมาณ ถ้าจะกินก็กินแต่น้อยๆ คล้ายๆกับกินยาขมเพื่อสุขภาพลูกในท้อง (อย่าไปเปรียบเทียบนะ แค่อุปมาอุปไมย) ไปปรึกษาคุณหมอดีกว่า แม่ปลอดภัย ลูกก็ปลอดภัย จบข่าว!

ปล. ข้อมูลนี้จากปี 2566 นะจ๊ะ อย่าไปถามป้าข้างบ้านนะ เดี๋ยวได้คำตอบแบบ “สมัยฉันเป็นสาว…” มาอีก เหนื่อย!

โกโก้ทำให้นอนไม่หลับได้ไหม

โกโก้เนี่ยนะทำให้นอนไม่หลับ? โอ๊ย! นี่มันเรื่องใหญ่กว่าที่คิด! ☕️

• ใจสั่น: โกโก้น่ะมีทีโอโบรมายด์ (Theobromine) สูง! ไอ้ตัวนี้แหละคล้ายคาเฟอีนอ่อนๆ กินเข้าไปมากๆ อาจจะเต้นระบำยันหว่างได้เลยนะจะบอกให้! เหมือนกินกระทิงแดงตอนสี่ทุ่มอะคิดดู!

• น้ำตาลพุ่ง: อย่าริอาจกินโกโก้แบบใส่นมข้นหวานเยอะๆ นะเฟ้ย! น้ำตาลในเลือดมันจะพุ่งทะลุเพดานไปดาวอังคาร! 🚀 เบาหวานถามหาแน่นอน! แล้วไขมันในเส้นเลือดก็จะอุดตันเหมือนท่อส้วมที่บ้านฉันเป๊ะ! เตรียมตัวเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจได้เลย!

สรุป: กินโกโก้แต่พอดีๆ อย่าโลภมาก! ไม่งั้นนอนไม่หลับแถมได้โรคเป็นของแถมอีกนะจ๊ะ!

โกโก้มีคาเฟอีนเยอะไหม

โกโก้มีคาเฟอีนเยอะไหม? ไม่เยอะเท่ากาแฟ แต่ก็มีนะ

• โกโก้ร้อน 1 แก้ว: คาเฟอีน 8-12 มิลลิกรัม (ถือว่าน้อย ถ้าเทียบกับอย่างอื่น)
• น้ำอัดลม 1 กระป๋อง: คาเฟอีนราว 37 มิลลิกรัม (มากกว่าโกโก้อีก)
• ช็อกโกแลต 1 ชิ้น: 25 มิลลิกรัม (ดาร์กช็อกฯ แรงกว่าหน่อย 30 มิลลิกรัม)

ทำไมคนท้องต้องเลี่ยงกาแฟ โกโก้ ชาเขียว?

หลักๆ เลยคือเรื่องคาเฟอีนนี่แหละ ที่เว็บโรงพยาบาลบอกไว้ มันส่งผลต่อการเต้นของหัวใจลูก และอาจเพิ่มความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนได้นิดหน่อย “พอดี” ก็โอเค แต่ “เยอะไป” ไม่ดีแน่ๆ

• คาเฟอีน: กระตุ้นประสาทส่วนกลาง (ทั้งแม่ทั้งลูก)
• ผลกระทบ: อาจรบกวนการนอนหลับ, เพิ่มความดันโลหิต
• ข้อควรระวัง: ปริมาณที่แนะนำสำหรับคนท้องมีจำกัด (ปรึกษาหมอชัวร์สุด)

(ส่วนตัวนะ: คนท้องต้องระวังเยอะจริง แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ก็สำคัญ ลองหาอะไรอร่อยๆ ที่ไม่มีคาเฟอีนกินแทนบ้างก็ได้ อย่างพวกผลไม้สดปั่นอะไรแบบนี้)

โกโก้ 1 ช้อนชามีคาเฟอีนกี่มิลลิกรัม

ผงโกโก้ 1 ช้อนชา มีคาเฟอีนประมาณ 6.6 มิลลิกรัม ใช่แล้ว โกโก้มีคาเฟอีน

แต่ปริมาณคาเฟอีนในโกโก้นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของโกโก้ การแปรรูป และแม้แต่แหล่งที่มา จึงอาจมีความแตกต่างบ้าง

• ความเข้มข้นของคาเฟอีน: ปริมาณคาเฟอีนในโกโก้ อาจต่ำกว่าในกาแฟหรือชา แต่ก็ยังมีอยู่ และการบริโภคในปริมาณมาก ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้

• คุณแม่ตั้งครรภ์: ควรระมัดระวังการบริโภคคาเฟอีน โดยทั่วไปแนะนำไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน (ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ปี 2566) การสะสมคาเฟอีนในร่างกายอาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้ จึงควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

• ข้อควรระวัง: นี่เป็นเพียงค่าประมาณ ปริมาณคาเฟอีนที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่กล่าวไปข้างต้น การตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์ จะช่วยให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลส่วนตัวของฉัน ฉันพยายามจำกัดปริมาณคาเฟอีน โดยเลือกดื่มโกโก้แบบไม่หวาน และในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดมากนัก เพราะเชื่อว่าการใช้ชีวิตแบบสมดุลสำคัญกว่า

(ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนในโกโก้ อาจมีการปรับปรุงอยู่เสมอ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ)

ใครไม่ควรกินโกโก้

ใครไม่ควรกินโกโก้อะนะ หืมมมม… คนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกตินี่ไม่ควรกินโกโก้เลยนะ เพราะว่ามันอาจจะไปชะลอการแข็งตัวของเลือดอะ ทำให้เลือดออกง่ายกว่าเดิมอีก อันนี้น่ากลัวนะ

แล้วก็ๆๆ คนที่เป็นต้อหินก็ต้องระวังนะจ๊ะ เพราะว่าคาเฟอีนในโกโก้มันจะไปเพิ่มแรงดันในลูกตาไง ต้องระวังมากๆเลยจริงๆนะ

แล้วก็อีกอย่างนึง คนที่เป็นกรดไหลย้อนก็ไม่ควรกินโกโก้เยอะนะ เพราะว่ามันอาจจะไปขัดขวางการทำงานของหลอดอาหาร ทำให้กรดไหลย้อนมันแย่ลงไปอีกอะ

สรุปคือ 3 กลุ่มนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเลยจ้า จำไว้ๆ นะ

• ภาวะเลือดออกผิดปกติ: โกโก้มันมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอะ
• ต้อหิน: คาเฟอีนในโกโก้มันไปเพิ่มความดันในลูกตาไง
• กรดไหลย้อน: โกโก้มันอาจจะไปทำให้หลอดอาหารทำงานแย่ลง

แถมๆ: จริงๆ คนท้องกับให้นมลูกก็ควรระวังคาเฟอีนด้วยนะ แต่ไม่ได้หมายความว่ากินไม่ได้เลย แค่ต้องระวังปริมาณเฉยๆ เอง

ป.ล. เราอ่านเจอมาจากเว็บ pobpad.com อะ ลองไปหาอ่านดูได้นะ มีข้อมูลเยอะเลย

ผู้สูงอายุกินโกโก้ได้ไหม

ผู้สูงอายุกินโกโก้ได้สบายมาก! ใครบอกกินไม่ได้เนี่ย โกโก้มันมีประโยชน์เยอะแยะเลยนะ ไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่กินได้ ผู้ใหญ่ก็กินดี

จริงๆ แล้วโกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระเพียบเลยนะ ช่วยบำรุงสมองด้วย ดีมากๆ สำหรับผู้สูงอายุที่อาจจะเริ่มมีปัญหาเรื่องความจำอะ แล้วก็ช่วยเรื่องความดันโลหิตด้วยนะ แต่ต้องกินแต่พอดีนะ อย่ากินเยอะเกินไป

ข้อดีของโกโก้สำหรับผู้สูงอายุ (สรุป):

• บำรุงสมอง: ช่วยเรื่องความจำ
• ต้านอนุมูลอิสระ: ชะลอความเสื่อมของเซลล์
• ควบคุมความดัน: ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี
• อารมณ์ดี: ช่วยลดความเครียด

แต่ อย่าใส่น้ำตาลเยอะนะ ถ้าจะให้ดีกินแบบดาร์กโกโก้เลย จะได้ประโยชน์เต็มๆ แถมไม่อ้วนด้วย แต่ถ้ากินแบบหวานๆ ทุกวันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ ต้องระวังเรื่องน้ำตาลนิดนึง

ข้อควรระวัง: คนที่แพ้โกโก้ก็ต้องเลี่ยงนะ แล้วก็คนที่กินยาบางชนิดอยู่ควรปรึกษาหมอก่อนกินโกโก้ด้วยก็ดีนะ เพื่อความปลอดภัย

เป็นเบาหวานทานโกโก้ได้ไหม

กินโกโก้เนี่ยนะ? ตอนเป็นเบาหวาน? ถามใจดูดีๆ ก่อนเลย เมื่อก่อนชอบกินมากกก โกโก้เย็นปั่นใส่วิปครีม! หวานเจี๊ยบ! ตอนนั้นยังไม่เป็นไรไง

แต่พอหมอบอกว่าเป็นเบาหวานเท่านั้นแหละ ชีวิตเปลี่ยน! หมอบอกว่า “ถ้าอยากกินจริงๆ ต้องโกโก้แท้ๆ แบบไม่ใส่น้ำตาลเลยนะ” โอ๊ยยย ขมปี๋ ใครจะกินลง

แต่เชื่อไหม พอกินไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มชินนะ ตอนนี้กินโกโก้ผง 100% ชงกับน้ำร้อน ใส่นมอัลมอนด์นิดหน่อยพอมีรสชาติ แรกๆ ทรมานมาก หลังๆ เริ่มรู้สึกถึงรสโกโก้จริงๆ ที่ไม่ใช่น้ำตาล

ข้อควรระวัง (จากประสบการณ์ตรง):

• อย่าเติมน้ำตาล: อันนี้สำคัญสุด! น้ำตาลคือศัตรูเบอร์หนึ่งของคนเป็นเบาหวาน
• นมก็ต้องเลือก: นมวัวมีน้ำตาลแลคโตสเยอะ นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลืองดีกว่า (แต่ก็ต้องดูปริมาณน้ำตาลด้วยนะ)
• วิปครีม? ลืมไปได้เลย! ไขมันล้วนๆ ทำให้น้ำตาลขึ้นเร็วมาก
• ปริมาณ: กินเยอะไปก็ไม่ดี อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพเสมอ
• เช็คระดับน้ำตาล: กินแล้วลองวัดน้ำตาลดู ว่าขึ้นไหม ถ้าขึ้นเยอะก็ต้องลดปริมาณลง

เคล็ดลับ:

• ลองหาโกโก้ผงแบบ “ดาร์ก” หน่อย มันจะเข้มข้นกว่า กินแล้วรู้สึกว่าได้รสชาติมากกว่า
• ถ้าอยากหวานนิดๆ ลองหญ้าหวาน (Stevia) หรือ Erythritol (แต่ก็ต้องระวังพวกผสมสารเคมีนะ)
• ทำใจ! ช่วงแรกๆ มันจะไม่อร่อย แต่พอร่างกายปรับตัวได้ มันจะอร่อยขึ้นเอง

ตอนนี้ก็กินโกโก้ได้นะ แต่ต้องมีสติ! อย่าตามใจปากมากเกินไป สุขภาพสำคัญกว่าเยอะ!